ขั้นตอนการขึ้นศาล คดีขับรถประมาท พร้อมสิ่งที่ควรเตรียมพร้อม

อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แม้คุณจะระมัดระวังมากแค่ไหนก็ตาม เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว นอกจากความเสียหายทางทรัพย์สินและร่างกายที่ต้องแบกรับ หลายครั้งคุณอาจต้องเผชิญกับความรับผิดทางกฎหมายด้วย โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นฝ่ายขับรถโดยประมาท
บทความนี้ ประกันติดโล่จะพาคุณไปทำความเข้าใจกับทุกขั้นตอนการขึ้นศาล คดีขับรถประมาท ตั้งแต่กฎหมายที่เกี่ยวข้อง บทลงโทษในแต่ละกรณี ไปจนถึงสิ่งที่ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพื่อให้คุณรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างมั่นใจครับ
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีขับรถประมาท พร้อมบทลงโทษที่ต้องรู้
ก่อนที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการขึ้นศาล คดีขับรถประมาท เราควรทราบถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องและบทลงโทษในแต่ละกรณีก่อน เพราะความรุนแรงของบทลงโทษจะแตกต่างกันไปตามระดับความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อกระบวนการทางกฎหมายและการเตรียมตัวของคุณด้วย มาดูกันว่า แต่ละกรณีมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง
ในกรณีที่ขับรถโดยประมาท น่าหวาดเสียว แต่ไม่ได้ทำผู้อื่นบาดเจ็บ
การขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียว แม้จะไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ก็ถือเป็นความผิดตามกฎหมายที่ไม่ควรมองข้าม ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 43 (4) ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามมาตรา 157 ซึ่งต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท
แม้บทลงโทษจะดูไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับกรณีอื่นๆ แต่การขับรถโดยประมาทเป็นจุดเริ่มต้นที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนนอยู่เสมอ และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่รุนแรงยิ่งขึ้นครับ
ในกรณีที่ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส
เมื่อการขับรถชนคนโดยประมาท และทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส บทลงโทษจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ระบุไว้ว่า ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อันตรายสาหัสในที่นี้ หมายถึง การบาดเจ็บที่รุนแรง เช่น ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลานานเกิน 20 วัน มีการสูญเสียอวัยวะ หรือเกิดความพิการถาวร ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้เสียหายในระยะยาว นอกจากโทษทางอาญาแล้ว ผู้กระทำความผิดยังต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทางแพ่ง เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าขาดรายได้ หรือค่าเสียหายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นด้วยครับ
ในกรณีที่ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
กรณีที่ร้ายแรงที่สุดคือ การขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ซึ่งมีบทลงโทษที่รุนแรงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291/1 ที่บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท
ความผิดในกรณีนี้ถือเป็นความผิดที่ไม่สามารถยอมความกันได้ เนื่องจากเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน แม้ทายาทของผู้เสียชีวิตจะไม่ติดใจเอาความ แต่รัฐก็ยังสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้ นอกจากนี้ ผู้กระทำผิดยังต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งให้แก่ทายาทของผู้เสียชีวิตอีกด้วย เช่น ค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะ เป็นต้น
ในกรณีที่ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์
หากการขับรถโดยประมาทก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้อื่น เช่น ขับรถชนท้ายคันหน้า โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ผู้กระทำผิดจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (4) และมาตรา 157 ซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท
แต่หากเกิดการบาดเจ็บเล็กน้อย จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากโทษทางอาญาแล้ว ผู้กระทำผิดยังต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งอีกด้วย เช่น ค่าซ่อมแซมทรัพย์สินที่เสียหาย ค่าเสียประโยชน์จากการใช้ทรัพย์สินในระหว่างที่ทรัพย์สินเสียหาย เป็นต้น ซึ่งหากมีประกันภัยรถยนต์ บริษัทประกันอาจเข้ามาช่วยรับผิดชอบค่าเสียหายเหล่านี้ตามเงื่อนไขการเคลมประกันรถยนต์ที่ระบุในกรมธรรม์ครับ
เมื่อขับรถประมาทจนเกิดอุบัติเหตุต้องทำยังไง
เมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถโดยประมาท การตั้งสติและรู้ว่าต้องทำอะไรบ้างเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการจัดการกับสถานการณ์อย่างถูกต้องจะช่วยลดความรุนแรงของปัญหาและเตรียมความพร้อมสำหรับขั้นตอนทางกฎหมายที่อาจตามมา โดยสิ่งที่คุณควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุมีดังนี้
- จอดรถในที่ปลอดภัย เปิดไฟฉุกเฉิน และตรวจสอบความปลอดภัย ห้ามหลบหนีจากที่เกิดเหตุเด็ดขาด เพราะจะทำให้คดีรุนแรงขึ้น
- หากมีผู้บาดเจ็บ ให้โทรเรียกรถพยาบาลทันที (1669) และให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่หากไม่มั่นใจ ไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น
- โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ (191) ให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และรอจนกว่าเจ้าหน้าที่จะมาถึง
- ถ่ายเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้งสภาพความเสียหายของรถยนต์ และสภาพแวดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุ เช่น รอยเบรก สัญญาณจราจร หรือสภาพถนน
- บันทึกข้อมูลคู่กรณี ทั้งทะเบียนรถ ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ของคู่กรณี และข้อมูลประกันรถยนต์ของทั้งสองฝ่าย
- ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามความเป็นจริง ไม่ควรปกปิด หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง
- หากมีประกันรถยนต์ ให้แจ้งบริษัทประกันทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่มาดำเนินการตามขั้นตอน
- หากอุบัติเหตุมีความรุนแรง เช่น มีผู้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต ควรปรึกษาทนายความโดยเร็วที่สุด
สิ่งที่ควรเตรียมให้พร้อมก่อนขึ้นศาลคดีขับรถประมาท
การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนขึ้นศาลในคดีขับรถประมาทเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณรับมือกับกระบวนการทางกฎหมายได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเตรียมเอกสารและหลักฐานให้ครบถ้วน เพื่อช่วยให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างราบรื่น นี่คือสิ่งที่คุณควรเตรียมให้พร้อมครับ
- ภาพถ่ายในที่เกิดเหตุ : ภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นสภาพรถยนต์ ตำแหน่งที่รถจอด รอยเบรก และสภาพแวดล้อมโดยรอบที่เกิดเหตุ ภาพเหล่านี้จะเป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้ศาลเข้าใจลักษณะของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ควรถ่ายภาพจากหลายมุมและให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้
- บันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ : เอกสารที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับอุบัติเหตุซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกไว้ ณ ที่เกิดเหตุ รวมถึงความเห็นของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสาเหตุของอุบัติเหตุและฝ่ายที่น่าจะเป็นผู้กระทำผิด บันทึกนี้จะใช้เป็นเอกสารอ้างอิงในชั้นศาล
- ใบรับรองแพทย์และเอกสารการรักษา : หากมีผู้บาดเจ็บ ให้เตรียมใบรับรองแพทย์ ผลการวินิจฉัย และเอกสารการรักษาพยาบาลทั้งหมด เพื่อแสดงถึงความรุนแรงของการบาดเจ็บและค่าใช้จ่ายในการรักษา
- ใบเสร็จค่าซ่อมรถและค่าใช้จ่ายอื่นๆ : เอกสารที่แสดงค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถยนต์และทรัพย์สินที่เสียหาย รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ เช่น ค่าเช่ารถระหว่างซ่อม
- ข้อมูลกรมธรรม์ประกันภัย : เอกสารที่แสดงรายละเอียดความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันรถยนต์ของคุณ รวมถึงวงเงินคุ้มครองและเงื่อนไขการคุ้มครอง ข้อมูลนี้จะช่วยให้ทนายความของคุณวางแผนการดำเนินคดีได้อย่างเหมาะสม
- ข้อมูลพยานบุคคล : รายชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ของพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งสามารถให้การที่เป็นประโยชน์ต่อคดีของคุณ การมีพยานบุคคลจะช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับคำให้การของคุณได้มาก
- บันทึกความเห็นของพนักงานเคลมประกัน : ความเห็นของเจ้าหน้าที่บริษัทประกันที่มาตรวจสอบความเสียหาย ซึ่งอาจมีประโยชน์ในการประเมินความรับผิดของแต่ละฝ่าย
- เอกสารที่แสดงความเสียหายเชิงเศรษฐกิจ : หากอุบัติเหตุส่งผลให้คุณสูญเสียรายได้ หรือโอกาสทางธุรกิจ ให้เตรียมเอกสารที่แสดงถึงความเสียหายเหล่านี้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือสัญญาทางธุรกิจที่ต้องยกเลิกเนื่องจากอุบัติเหตุ
- ข้อมูลทางการเงิน : เตรียมเอกสารที่แสดงความสามารถในการชำระค่าเสียหายหรือค่าปรับ หากคุณเป็นฝ่ายผิด ข้อมูลนี้อาจช่วยในการเจรจาเพื่อขอลดหย่อนโทษหรือผ่อนชำระค่าเสียหาย
ขั้นตอนการขึ้นศาลคดีขับรถประมาท ในกรณีที่เป็นผู้เสียหาย
เมื่อคุณตกเป็นผู้เสียหายจากอุบัติเหตุรถชน การดำเนินคดีทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายเป็นสิทธิของคุณ การทำความเข้าใจขั้นตอนการขึ้นศาล คดีขับรถประมาท จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง และรักษาสิทธิประโยชน์ของตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยขั้นตอนหลักๆ ในการดำเนินคดีมีดังนี้ครับ
1. เตรียมคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา
ขั้นตอนแรกในการดำเนินคดีรถชนคือการเตรียมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนและชัดเจน การเตรียมคดีที่ดีจะช่วยให้ทนายความของคุณสามารถวางกลยุทธ์ในการดำเนินคดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรรวบรวมเอกสารสำคัญทั้งหมด เช่น ภาพถ่ายที่เกิดเหตุ บันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จค่าซ่อมรถ และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อมูลติดต่อของพยานในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ คุณควรตรวจสอบรายละเอียดความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ของคุณด้วย
2. ร่างคำฟ้องทั้งทางแพ่งและทางอาญา
เมื่อทนายความได้รวบรวมและวิเคราะห์หลักฐานทั้งหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการร่างคำฟ้อง ทนายความจะสรุปรายละเอียดความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันรถยนต์ และเตรียมคำฟ้องทั้งทางแพ่งและทางอาญา (หากมีความผิดทางอาญา) คำฟ้องจะระบุรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความเสียหายที่คุณได้รับ และจำนวนค่าเสียหายที่เรียกร้อง ทนายความจะวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของคดี และอธิบายให้คุณเข้าใจถึงโอกาสในการชนะคดี
3. เริ่มต้นพิจารณาคดีในศาล
เมื่อยื่นฟ้องแล้ว ศาลจะกำหนดวันไต่สวนมูลฟ้องหรือวันนัดพิจารณาคดี ในวันขึ้นศาล ศาลมักจะเริ่มต้นด้วยการไกล่เกลี่ยทั้งทางแพ่งและทางอาญา โดยเปิดโอกาสให้คู่กรณีได้พูดคุยเพื่อหาข้อยุติโดยไม่ต้องดำเนินคดีต่อ หากการไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ คดีจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาเต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีการสืบพยาน การนำเสนอหลักฐาน และการพิจารณาของศาลตามลำดับ ทั้งนี้ ระยะเวลาในการพิจารณาคดีอาจใช้เวลานานขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคดี
คดีขับรถประมาทมีอายุความกี่ปี และมีหมายจับระยะเวลากี่ปี
คดีขับรถประมาทมีอายุความที่แตกต่างกันตามความรุนแรงของความผิด โดยทั่วไป กรณีที่มีผู้เสียชีวิตจะมีอายุความ 15 ปี หากเป็นกรณีทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสจะมีอายุความ 10 ปี ส่วนกรณีที่เป็นการขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกาย หรือจิตใจ จะมีอายุความ 5 ปี และหากเป็นเพียงการขับรถประมาทที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จะมีอายุความเพียง 1 ปีเท่านั้น
สำหรับระยะเวลาหมายจับนั้น โดยทั่วไปหมายจับจะมีอายุ 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโทษ ในกรณีที่เป็นความผิดร้ายแรงที่มีโทษจำคุกสูง เช่น กรณีที่มีผู้เสียชีวิต หมายจับอาจไม่มีวันหมดอายุจนกว่าจะจับผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้ครับ
สรุป ขับรถประมาท ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ ฟ้องศาลได้
การขับรถประมาทที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ผู้เสียหายมีสิทธิ์ในการฟ้องร้องเพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและทางอาญา ขั้นตอนการขึ้นศาล คดีขับรถประมาท อาจดูซับซ้อน แต่หากเตรียมตัวให้พร้อมและเข้าใจกระบวนการทางกฎหมาย คุณจะสามารถรับมือได้อย่างมั่นใจ สิ่งสำคัญคือการรวบรวมหลักฐานให้ครบถ้วน ปรึกษาทนายความที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความซื่อสัตย์ในการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่และศาล
อย่างไรก็ตาม การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข การขับรถอย่างมีสติและระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและหลีกเลี่ยงการเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายที่ยุ่งยากและใช้เวลานาน นอกจากนี้ การทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลกับประกันติดโล่ ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยบรรเทาความเสียหายทางการเงินหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นครับ
ที่มา: สมาคมประกันวินาศภัยไทย