โรคฝีดาษลิงเกิดจากอะไร รวมอาการ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้

ในช่วงนี้เริ่มได้ยินข่าวการระบาดของโรคฝีดาษลิงในไทยมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนอาจสงสัยว่าโรคนี้คืออะไร อันตรายแค่ไหน เป็นแล้วมีโอกาสหายไหม วันนี้เราจะพาคุณมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง หรือที่บางคนเรียกว่าโรคฝีดาษวานร ทั้งเรื่องสาเหตุ การติดต่อ อาการของคนที่เป็น รวมถึงวิธีรักษา เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับโรคนี้ได้อย่างถูกต้องและไม่ให้กลับมาเป็นอีก ตามมาดูกันเลย

โรคฝีดาษลิงคืออะไร

โรคฝีดาษลิง หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Monkeypox คือ โรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัสในกลุ่มเดียวกับไข้ทรพิษ แต่อาการไม่รุนแรงเท่า โดยโรคนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 2501 จากการศึกษาลิงที่ติดเชื้อ จึงได้ชื่อว่า “ฝีดาษลิง” นั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่ฝีดาษลิงจะพบในแถบแอฟริกา แต่ปัจจุบันก็เริ่มพบการระบาดของโรคนี้ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก

ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้คนเป็นโรคนี้กัน ก็อาจจะเกิดจากการติดเชื้อไวรัสผ่านการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากคนที่ป่วยเป็นโรคนี้มาก่อน สำหรับในประเทศไทยเองยังไม่พบการระบาดที่รุนแรง แต่ก็มีรายงานผู้ติดเชื้ออยู่บ้าง ฉะนั้นหากคุณไม่อยากเป็นโรคฝีดาษลิง คุณควรระมัดระวังตัวเอง โดยการไม่ไปอยู่ใกล้กับคนที่เป็นหรือสัตว์ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจทำให้คุณเป็นโรคฝีดาษลิงได้

การติดต่อของโรคฝีดาษลิง

การติดต่อของโรคฝีดาษลิง

การติดต่อของฝีดาษลิง สามารถติดต่อได้ทั้งจากสัตว์สู่คน และจากคนสู่คน แต่โชคดีที่การแพร่กระจายของโรคนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนโควิด-19 โรคที่หลายๆ คนเคยเป็นกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ทางที่ดีคุณควรรู้ว่าการติดต่อของโรคฝีดาษลิงนั้นเกิดจากอะไร ติดต่อกันยังไงได้บ้าง เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้ ซึ่งปัจจุบันการติดต่อของฝีดาษลิง สามารถเกิดขึ้นได้ 2 ทางหลักๆ ดังนี้

1. ติดต่อจากสัตว์สู่คน

การติดเชื้อจากสัตว์สู่คน สามารถเกิดขึ้นได้หลายวิธี เช่น การสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือแผลของสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยเฉพาะสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก หรือกระต่าย รวมถึงลิง หรือแม้แต่การกินเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อแบบดิบๆ หรือปรุงไม่สุก ซึ่งถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาด หรืออยู่ในพื้นที่มีความเสี่ยง ควรระวังการสัมผัสกับสัตว์ป่าหรือสัตว์ฟันแทะทั้งหลาย และควรทานอาหารที่ปรุงสุกเท่านั้น

2. ติดต่อจากคนสู่คน

การติดต่อโรคฝีดาษลิงจากคนสู่คน ส่วนใหญ่จะเกิดจากการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง โดยเฉพาะการสัมผัสสารคัดหลั่งต่างๆ เช่น น้ำลาย เสมหะ น้ำจากแผลหรือตุ่มหนอง รวมถึงละอองที่เกิดจากการไอหรือจามของผู้ป่วย หรือแม้แต่การใช้ของร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า หรือเครื่องนอน ก็สามารถติดเชื้อได้

ฝีดาษลิงอาการเป็นยังไง

ใครที่ได้รับเชื้อฝีดาษลิง อาการอาจไม่แสดงทันที โดยโรคนี้จะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 7-14 วัน (บางคนอาจนานถึง 21 วัน) ซึ่งคนที่ติดเชื้อฝีดาษลิงอาการที่พบได้บ่อยๆ มีดังนี้

  • มีอาการไข้ หนาวสั่น
  • ปวดเมื่อยตามตัว
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
  • ต่อมน้ำเหลืองโต
  • ปวดบริเวณศีรษะ
  • มีอาการเจ็บคอ
  • ผื่นขึ้นตามหน้า มือ เท้า

การรักษาฝีดาษลิง (Monkeypox)

สำหรับในประเทศไทย ถือว่าโชคดีมากๆ ที่โรคฝีดาษลิงส่วนใหญ่ไม่รุนแรงมาก และผู้ป่วยมักหายได้เองภายใน 2-4 สัปดาห์ ทำให้การรักษาไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากเกินไป ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนเป็นหลัก เช่น การให้ยาลดไข้ ยาแก้ปวด หรือให้น้ำเกลือเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และการดูแลแผลไม่ให้ติดเชื้อ แต่ถ้าใครมีอาการที่รุนแรง แพทย์อาจให้คุณทานยาต้านไวรัส เช่น cidofovir หรือ tecovirimat

วิธีป้องกันโรคฝีดาษลิง 

แม้โรคฝีดาษลิงจะไม่ได้รุนแรงเท่าโควิด-19 แต่ถ้ามีการระบาดไปยังผู้ที่มีสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง ก็อาจจะถึงขั้นวิกฤตได้เช่นกัน และเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นฝีดาษลิง มาดูวิธีป้องกันโรคนี้กันดีกว่า

  • ไม่สัมผัสสัตว์ที่มีความเสี่ยง : คุณควรหลีกเลี่ยงการจับ หรือสัมผัสเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ โดยเฉพาะสัตว์ป่า
  • ใส่ใจเรื่องอาหาร : ไม่กินเนื้อสัตว์ที่มีโอกาสติดเชื้อ เช่น หนู กระรอก กระต่าย ลิง และควรกินอาหารที่ปรุงสุกเท่านั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากอาหารที่คุณกินเข้าไป
  • รักษาความสะอาด : หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะหลังสัมผัสสัตว์ คนที่อาจติดเชื้อ หรือหลังเดินทางเข้าป่า
  • ไม่นำสัตว์ป่ามาเลี้ยง : ควรหลีกเลี่ยงการนำสัตว์ป่า หรือสัตว์จากต่างประเทศมาเลี้ยงโดยไม่ผ่านการคัดกรองโรค
  • เฝ้าระวังหลังการเดินทาง : หากคุณเดินทางกลับจากพื้นที่ที่กำลังมีการระบาดของโรคฝีดาษลิง ให้เฝ้าระวังอาการตัวเองประมาณ 3 สัปดาห์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์และกักตัวทันที

เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ หากคุณเป็นโรคฝีดาษลิงและกำลังรักษาตัวอยู่ คุณควรอยู่ในห้องแยก สวมหน้ากากอนามัย และใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดผื่นให้มิดชิด จนกว่าแผลจะหายขาดและหลุดออกจนหมด ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์

สรุป เป็นโรคฝีดาษลิง หายเองได้ไหม

โรคฝีดาษลิงอาจฟังดูน่ากลัว แต่ความจริงแล้วไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตอย่างที่หลายคนกังวล ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อและมีอาการที่ไม่รุนแรง สามารถหายจากโรคนี้ได้โดยไม่ต้องทำการรักษา โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ในการฟื้นตัวจนหายขาด

และในกรณีที่คุณเป็นโรคฝีดาษลิงอาการรุนแรง การไปพบแพทย์เป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งในหลายๆ ครั้ง แพทย์อาจพิจารณาให้คุณทานยาต้านไวรัสเพื่อช่วยในการรักษา ซึ่งในตอนนี้มียาที่ใช้รักษาโรคฝีดาษลิงที่ได้ผลดี ถ้าคุณกำลังกังวลอยู่ว่าหากเป็นขึ้นมาจะมีโอกาสหายได้หรือไม่ เราบอกเลยว่าสามารถหายได้เอง ไม่ต้องกังวล!



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

บทความแนะนำ
  • ข้อสอบใบขับขี่พร้อมเฉลย ล่าสุด 2567
    รวมเฉลยข้อสอบใบขับขี่ 2566 อย่างละเอียด ไม่อยากสอบหลายรอบมาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสอบจริงกับแนวข้อสอบใบขับขี่ภาคทฤษฎี 50 ข้อพร้อมเฉลย
    230,256
  • รถเป็นรอยขูดทำไงดี เคลมประกันชั้น 1 ได้ไหม จ่ายค่าเสียหายส่วนแรกกี่บาท
    อยู่ๆ รถสุดที่รักก็โดนขูดเป็นรอยลึก หาตัวคนผิดก็ไม่ได้ คู่กรณีก็ไม่มี แล้วแบบนี้ประกันรถยนต์จะรับเคลมไหม ต้องจ่ายค่าทำสีรถใหม่เองหรือเปล่า ทำยังไงได้บ้าง?
    124,628
  • ไม่หลบรถพยาบาลเปิดไซเรน ระวังผิดกฎหมายรถฉุกเฉิน และเจตนาฆ่า!
    รถพยาบาลฉุกเฉินเปิดไฟวับวาบและเปิดเสียงไซเรน คุณควรหลีกทางให้รถพยาบาลแบบด่วนๆ เพราะถ้าฝ่าฝืนทำตัวขวางโลกรู้ไหมว่าผิดกฎหมายรถฉุกเฉิน และมีเจตนาฆ่าด้วย!
    124,068