เปิดค่ารักษาโรคมะเร็งในไทย เริ่มต้นเท่าไหร่ รักษายังไง 2025

“มะเร็ง” เป็นโรคร้ายที่ใกล้ตัวเรามากขึ้นทุกวันนะครับ จากสถิติพบว่าคนไทยมีแนวโน้มป่วยเป็นมะเร็งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อพูดถึงโรคมะเร็ง นอกจากความกังวลเรื่องสุขภาพแล้ว สิ่งที่สร้างความหนักใจไม่แพ้กันก็คือ ค่ารักษามะเร็ง ที่อาจสูงจนกระทบแผนการเงินที่วางไว้ทั้งหมด การวางแผนรับมือทางการเงินล่วงหน้าจึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดครับ วันนี้ประกันติดโล่จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของค่าใช้จ่าย พร้อมแนะแนวทางเตรียมความพร้อมให้คุณอุ่นใจยิ่งขึ้นครับ

เจาะลึกค่าใช้จ่ายรักษามะเร็งแต่ละประเภท

หลายคนอาจคิดว่าค่ารักษามะเร็ง คือค่าหมอ ค่ายา แต่ความจริงแล้วมีรายละเอียดมากกว่านั้นครับ เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจน เราได้รวบรวมข้อมูลประมาณการค่าใช้จ่ายตามวิธีการรักษาต่างๆ เพื่อให้คุณเข้าใจและวางแผนได้ง่ายขึ้นครับ

ค่าเคมีบำบัด (Chemotherapy)

เคมีบำบัด หรือที่เรียกกันติดปากว่า “การให้คีโม” คือการใช้ยาเพื่อหยุดยั้งหรือทำลายเซลล์มะเร็งที่อาจแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย โดยส่วนมากจะให้เป็นรอบๆ (Cycle) ตามแผนการรักษาของแพทย์ ซึ่งแต่ละรอบก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมไว้ครับ

ประมาณการค่าใช้จ่าย อยู่ระหว่าง 50,000 – 100,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งผู้ป่วยหนึ่งคนอาจต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้ง ทำให้ยอดรวมของค่ารักษามะเร็งในส่วนนี้อาจสูงถึงหลักแสนหรือหลักล้านบาทได้เลยทีเดียว

ค่ารังสีรักษา (Radiation Therapy)

การฉายรังสี หรือ ฉายแสง เป็นการใช้รังสีพลังงานสูงฉายไปยังตำแหน่งของเซลล์มะเร็งโดยตรงเพื่อทำลายเซลล์เหล่านั้น เป็นอีกหนึ่งวิธีมาตรฐานที่ใช้รักษามะเร็งหลายชนิด ทั้งการรักษาเดี่ยวๆ และการรักษาร่วมกับการผ่าตัดหรือเคมีบำบัด

ประมาณการค่าใช้จ่าย โดยทั่วไปจะประเมินเป็นคอร์สการรักษา ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 100,000 – 200,000 บาทต่อคอร์ส ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งและเทคนิคการฉายรังสีที่ใช้

ค่ายามุ่งเป้าและภูมิคุ้มกันบำบัด (Targeted & Immunotherapy)

เป็นเทคโนโลยีการรักษามะเร็งสมัยใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม เพราะมีประสิทธิภาพสูงและมีผลข้างเคียงน้อยกว่าวิธีดั้งเดิม โดยยามุ่งเป้าจะออกฤทธิ์จำเพาะเจาะจงกับเซลล์มะเร็ง ส่วนภูมิคุ้มกันบำบัดจะกระตุ้นให้ร่างกายต่อสู้กับมะเร็งเอง แต่ก็ต้องแลกมากับ ค่ารักษามะเร็ง ที่สูงขึ้นอย่างมากครับ

ประมาณการค่าใช้จ่าย

• ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy): อยู่ระหว่าง 2.7-4.6 ล้านบาท
• ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy): อาจสูงถึง 3-15 ล้านบาท

ค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ ที่ต้องเตรียม

นอกเหนือจากค่ารักษาหลักๆ แล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยแต่รวมกันแล้วเป็นเงินก้อนไม่น้อยเลยครับ ซึ่งเป็นส่วนที่หลายคนมักลืมนึกถึงเมื่อประเมินค่ารักษามะเร็งทั้งหมด

• ค่าตรวจวินิจฉัยและติดตามโรค เช่น การทำ CT Scan, MRI, PET/CT Scan หรือการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ (Biopsy) 
• ค่าห้องพักฟื้นและค่าบริการโรงพยาบาล
• ค่ายากลับบ้านและอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ
• ค่าเดินทางไป-กลับโรงพยาบาล
• ค่าเสียโอกาสในการทำงาน ของทั้งตัวผู้ป่วยและผู้ดูแล

5 โรคมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทยมีอะไรบ้าง

เพื่อให้เห็นภาพค่ารักษามะเร็ง ชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาลองดูตัวอย่างการประเมินค่าใช้จ่ายสำหรับ 5 มะเร็งที่พบบ่อยในคนไทยกันดีกว่าครับ ว่ามะเร็งแต่ละชนิดมีแนวทางและขั้นตอนการรักษาโดยทั่วไปเป็นอย่างไรบ้าง

ค่ารักษามะเร็งเต้านม

เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ในผู้หญิงไทย การรักษามักเป็นการผสมผสานหลายวิธีเข้าด้วยกัน แนวทางการรักษาโดยทั่วไปแพทย์จะเริ่มจากการผ่าตัดเพื่อนำก้อนมะเร็งและเนื้อเยื่อบางส่วนออกไป ซึ่งอาจเป็นการผ่าตัดแบบสงวนเต้าหรือตัดเต้านมทั้งเต้าขึ้นอยู่กับระยะของโรค จากนั้นอาจมีการรักษาเสริมตามมา เช่น การให้เคมีบำบัด (คีโม) เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่อาจหลงเหลือ, การฉายรังสี (ฉายแสง) บริเวณเต้านมเพื่อลดความเสี่ยงการกลับมาเป็นซ้ำ นอกจากนี้ในผู้ป่วยบางรายอาจมีการใช้ยาต้านฮอร์โมนหรือยามุ่งเป้าร่วมด้วยครับ

ค่ารักษามะเร็งปอด

เป็นอีกหนึ่งมะเร็งร้ายที่ค่ารักษามะเร็งค่อนข้างสูง เพราะมักตรวจเจอในระยะที่ลุกลามแล้ว แนวทางการรักษาหากตรวจพบในระยะแรก ๆ อาจรักษาให้หายขาดได้ด้วยการผ่าตัด แต่สำหรับผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มักตรวจพบในระยะลุกลาม การรักษาหลักจะเป็นการให้เคมีบำบัดร่วมกับการฉายรังสี ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก ทำให้มีทางเลือกในการรักษาที่ทันสมัยอย่างยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) ซึ่งใช้ได้ผลดีกับเซลล์มะเร็งปอดชนิดที่มีการกลายพันธุ์แบบจำเพาะ และภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายต่อสู้กับมะเร็งได้เอง

ค่ารักษามะเร็งลำไส้ใหญ่

มักพบในผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันพบในคนอายุน้อยลงเรื่อยๆ การรักษาหลักคือการผ่าตัด โดยแนวทางการรักษาหลักคือการผ่าตัดเพื่อนำลำไส้ส่วนที่มีก้อนมะเร็งและต่อมน้ำเหลืองข้างเคียงออกไป ในผู้ป่วยบางรายที่มีความเสี่ยงสูงต่อการกลับมาเป็นซ้ำ แพทย์อาจพิจารณาให้เคมีบำบัดเป็นการรักษาเสริมหลังการผ่าตัด หรือในกรณีที่ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่มาก อาจมีการให้ยาเคมีบำบัดหรือฉายรังสีก่อนผ่าตัดเพื่อทำให้ก้อนเล็กลงและง่ายต่อการผ่าตัดครับ

ค่ารักษามะเร็งตับ

เป็นมะเร็งที่รุนแรงและมักมีทางเลือกในการรักษาน้อยหากตรวจพบในระยะท้ายๆ แนวทางการรักษาหากก้อนมะเร็งมีขนาดเล็กและตับยังทำงานได้ดี การผ่าตัด ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ แต่วิธีการรักษาอื่น ๆ ก็มีเช่นกัน เช่น การใช้คลื่นความร้อนจี้ทำลายก้อนมะเร็ง (RFA), การให้ยาเคมีบำบัดผ่านทางหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงตับ (TACE) หรือในยุคปัจจุบันก็มีการใช้ ยามุ่งเป้า ซึ่งเป็นยาแบบรับประทานที่เข้ามาเป็นความหวังใหม่ในการควบคุมโรคสำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับระยะลุกลาม

ค่ารักษามะเร็งปากมดลูก

เป็นมะเร็งที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน HPV แต่ก็ยังคงเป็นมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงไทย แนวทางการรักษาในระยะก่อนลุกลามหรือระยะเริ่มต้น สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นการตัดปากมดลูกด้วยห่วงไฟฟ้า หรือการผ่าตัดมดลูกออกไป แต่หากตรวจพบในระยะที่โรคลุกลามแล้ว การรักษาหลักจะเปลี่ยนเป็นการฉายรังสีบริเวณอุ้งเชิงกราน ซึ่งมักจะทำร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัดในปริมาณน้อย ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการฉายรังสีให้ดียิ่งขึ้นครับ

วิธีเตรียมความพร้อม รับมือค่ารักษามะเร็งอย่างอุ่นใจ

เมื่อเห็นตัวเลขค่ารักษามะเร็งที่สูงขนาดนี้แล้ว การเตรียมตัววางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งครับ เรามาดูกันว่ามีเครื่องมืออะไรบ้างที่จะช่วยแบ่งเบาภาระหนักนี้ให้กลายเป็นเบาได้

สวัสดิการจากภาครัฐ

สวัสดิการจากภาครัฐไม่ว่าจะเป็น บัตรทอง ประกันสังคม ข้าราชการ นับเป็นปราการด่านแรกที่คนไทยทุกคนมีติดตัวครับ สวัสดิการเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าถึงการรักษาพยาบาลตามมาตรฐานในโรงพยาบาลของรัฐได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายหรือจ่ายเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม อาจมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น การต้องรอคิวนาน หรืออาจไม่ครอบคลุมยาและเทคโนโลยีการรักษารุ่นใหม่ๆ ที่มีราคาสูง ซึ่งอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการรักษา ณ เวลานั้น

ประกันโรคมะเร็ง

นี่คือเครื่องมือทางการเงินที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับค่ารักษามะเร็งโดยเฉพาะเลยครับ โดยจะช่วยปิดจุดอ่อนของสวัสดิการภาครัฐได้อย่างตรงจุด อย่าง ประกันมะเร็งจากประกันติดโล่ ที่ให้ความคุ้มครองแบบ เจอ จ่าย ไม่จบ ให้ความยืดหยุ่นในการจ่าค่ารักษามากกว่า โดยมีแนวทางการดูแล ดังนี้

• เจอ เมื่อตรวจพบมะเร็งครั้งแรก รับเงินก้อนทันทีเพื่อนำไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง หรือเป็นเงินสำรองให้ครอบครัว
• จ่าย ครอบคลุมค่ารักษาทั้งแบบผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) จ่ายตามจริง ไม่ต้องสำรองจ่ายในโรงพยาบาลคู่สัญญา
• ไม่จบ ดูแลต่อเนื่อง ไม่ทิ้งกัน แม้จะเคลมเงินก้อนแรกไปแล้ว ก็ยังมีความคุ้มครองค่ารักษาต่อเนื่องตามแผนที่เลือกไว้

ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมค่ารักษามะเร็ง

สำหรับคนที่มีประกันสุขภาพอยู่แล้วก็ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ เพราะในปัจจุบันประกันสุขภาพบางแพ็กเกจที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากโรคมะเร็ง ทั้งค่าห้อง ค่าผ่าตัด ค่ายา ตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ อย่างไรก็ตาม หรืออาจมาในรูปแบบสัญญาเพิ่มเติม ถ้าให้ดีควรตรวจสอบรายละเอียดความคุ้มครองว่าครอบคลุมการรักษาแบบเคมีบำบัด, ฉายแสง, หรือยามุ่งเป้าเพียงพอหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเรามีวงเงินเพียงพอสำหรับค่ารักษามะเร็งที่อาจเกิดขึ้นจริง

สรุปบทความ

จะเห็นได้ว่าค่ารักษามะเร็งในปัจจุบันนั้นสูงกว่าที่เราคาดคิดไว้มาก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาไป การวางแผนที่ดีจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็น “ความจำเป็น” การพึ่งพาสวัสดิการจากรัฐเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้เราเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุดได้อย่างสบายใจ การมีประกันสุขภาพหรือประกันมะเร็งโดยเฉพาะ จึงเป็นเหมือนเบาะรองรับทางการเงินที่ช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้อย่างมั่นคงครับ

เพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต หมดกังวลเรื่องค่ารักษามะเร็งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ประกันติดโล่พร้อมให้บริการด้วย ประกันโรคมะเร็ง คุ้มครองแบบ เจอ จ่าย ไม่จบ ดูแลต่อเนื่อง ไม่ทิ้งกัน หมดห่วงเมื่อเจอโรคร้าย ตรวจเจอรับเงินก้อนแรกทันที พร้อมวงเงินค่ารักษาตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ให้คุณเลือกแผนการรักษาที่ดีที่สุดได้อย่างสบายใจครับ

ที่มา: Chula Cancer, Nakornthon Hospital