ตรวจสุขภาพประจำปีประกันสังคมฟรี กี่ครั้งต่อปี มีอะไรบ้าง?!
“ของฟรีไม่มีในโลก” ไม่จริงเลย! ประกันติดโล่เถียงหัวชนฝา เพราะถ้าคุณเป็นผู้ประกันตนของประกันสังคมตามมาตรา 33, 39, 40 ก็ใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลฟรีกับโรงพยาบาลที่คุณลงชื่อไว้ได้ และในพุทธศักราชนี้หลายคนยังคงไม่รู้ว่า คุณสามารถตรวจสุขภาพประจำปีกับประกันสังคมผ่านโรงพยาบาลในเครือได้แบบฟรี ๆ ซึ่งประกันสังคมตรวจสุขภาพฟรีที่ไหนบ้าง ตรวจสุขภาพอะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบครับ
ข้อมูลที่จำเป็นต้องรู้ก่อนตรวจสุขภาพฟรีประจำปีกับประกันสังคม
เพราะเป็นห่วงสุขภาพของผู้ประกันตน ทางสำนักประกันสังคมจึงไม่นิ่งนอนใจ ได้เข้าร่วมนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงแรงงานที่ให้ผู้ประกันเข้าตรวจสุขภาพประจำปีกับประกันสังคมแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อจะได้หาแนวทางในการดูแลร่างกายในลำดับถัดไปเมื่อพบโรคที่แฝงในร่างกาย อ่านถึงตรงนี้ คงสงสัยว่าตรวจสุขภาพฟรีกับประกันสังคมที่ไหนได้ เช็กสิทธิ์ประกันสังคมที่ไหน ประกันติดโล่รวมคำตอบไว้แล้ว
เช็กสิทธิ์ประกันสังคมของตัวได้ว่าอยู่โรงพยาบาลได้ที่ไหน?
มีจริงนะครับที่ผู้ประกันตนบางคนไม่ทราบว่าตนเองได้ลงชื่อไว้ว่าถ้าเจ็บป่วยขึ้นมาจะไปใช้สิทธิรักษาพยาบาลฟรีกับโรงพยาบาลอะไร เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาแทบจะไม่ป่วยเลย หรือป่วยก็ใช้ประกันสุขภาพของตนเองที่ซื้อเอาไว้ เพราะได้รับการรักษาที่ไวกว่าเนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเอกชน แต่พออยากเช็กสิทธิ์ประกันสังคมว่าอยู่โรงพยาบาลไหนก็ลืม แต่ปัญหาแก้ได้ง่าย ๆ เพียงคุณเข้าสู่ระบบผ่านเว็บไซต์ www.sso.go.th/wpr/main/login แล้วเลือกข้อมูลสถานพยาบาลที่ลงชื่อไว้ ข้อมูลก็จะปรากฏขึ้นในทันที
แล้วประกันสังคมให้ไปตรวจสุขภาพฟรีที่โรงพยาบาลไหนได้บ้าง?
หลังจากตรวจสอบแล้วว่ายังมีชื่อในสถานพยาบาลที่ลงชื่อเอาไว้ ลำดับต่อไปก็ต้องตรวจสอบว่าประกันสังคมให้ไปตรวจสุขภาพฟรีได้ที่โรงพยาบาลใดบ้าง ต้องเป็นโรงพยาบาลเดียวกันกับที่ลงทะเบียนเอาไว้ไหม คำตอบคือไม่จำเป็นครับ ผู้ประกันตนสามารถตรวจสุขภาพฟรีได้ทุกโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลที่เข้าร่วมได้ที่ https://www.sso.go.th/eform_news/ หรือสอบถามข้อมูลได้กับสำนักประกันสังคมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1506 ครับ!
ใช้เอกสารอะไรบ้างในการตรวจสุขภาพฟรีกับประกันสังคม
เมื่อตรวจสอบโรงพยาบาลที่ให้บริการแล้ว ก็มุ่งตรงไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้บ้านที่สุดได้เลย และแน่นอนว่าจะมีชื่อคุณอยู่ในระบบของสำนักประกันสังคมแล้ว สิ่งเดียวที่ต้องเตรียมไปคือบัตรประชาชนครับ ไม่ต้องถ่ายเอกสารอะไรเพิ่มเติม หรือคัดลอกสำเนาจากในเว็บไซต์ประกันสังคมให้ยุ่งยาก ถ้าอยากตรวจสุขภาพประจำปีกับประกันสังคมแบบฟรี ๆ ก็ลุยเลย
ตรวจสุขภาพประจำปีกับประกันสังคมแบบฟรี ๆ มีอะไรบ้าง
ตรวจสุขภาพประจำปีกับประกันสังคมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมีจุดประสงค์หลักโดยให้ผู้ประกันตนรู้ว่าตนเองมีโรคร้ายอะไรแฝงอยู่ หรือมีร่างกายมีความผิดปกติอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้ลุกลามกลายเป็นโรคเรื้อรัง อย่างโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไขมันในเส้นเลือด โรคไตวายเรื้อรัง เป็นต้น การตรวจแต่ละชนิดจะถูกกำกับเอาไว้ผู้ประกันตนต้องอายุเท่าไหร่ และสามารถตรวจสุขภาพฟรี ๆ กับประกันสังคมได้กี่ครั้งต่อปี ดังนี้
ตรวจสุขภาพกับประกันสังคมส่วนที่ 1 : การตรวจร่างกายตามระบบ
- การคัดกรองการได้ยิน FInger Rub Test อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
- การตรวจเต้านมโดยแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุข อายุ 30-39 ปี ตรวจทุก 3 ปี, อายุ 40-54 ปี ตรวจทุกปี และอายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจตามความเหมาะสมหรือมีความเสี่ยง
- การตรวจตาโดยความดูแลของจักษุแพทย์ อายุ 40-54 ปี ตรวจ 1 ครั้ง และอายุ 55 ปีขึ้นไปตรวจทุก 1-2 ปี
- การตรวจสายตาด้วย Snellen Eye Chart อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
ตรวจสุขภาพฟรีกับประกันสังคมส่วนที่ 2 : การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC อายุ 18-54 ปี ตรวจ 1 ครั้ง และอายุ 55-70 ปี ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
- ปัสสาวะ UA อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
ตรวจสุขภาพประจำปีกับประกันสังคม ส่วนที่ 3 : การตรวจสารเคมีในเลือด
- น้ำตาลในเลือด FBS อายุ 35-54 ปี ตรวจทุก 3 ปี และอายุ 55 ปีขึ้นไปตรวจ 1 ครั้งต่อปี
- การทำงานของไต Cr อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
- ไขมันในเส้นเลือดชนิด Total Cholesterol & HDL อายุ 20 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 5 ปี
ตรวจสุขภาพประจำปีฟรีกับการตรวจอื่น ๆ ส่วนที่ 4 : การตรวจอื่น ๆ
- เชื้อไวรัสตับอักเสบ HBsAg สำหรับผู้ที่เกิดก่อน พ.ศ.2535 ตรวจ 1 ครั้ง
- มะเร็งปากมดลูก หรือ Pap Smear อายุ 30-54 ปี ตรวจทุก 3 ปี และอายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจตามความเหมาะสมและมีความเสี่ยง
- มะเร็งปากมดลูกวิธี Via อายุ 30-54 ปี ตรวจทุก 5 ปี และอายุ 55 ปีขึ้นไป แนะนำให้ตรวจ Pap Smear
- เลือดในอุจจาระ FOBT อายุ 50 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
- Chest X-ray อายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนตรวจเจอโรคร้ายด้วยประกันสุขภาพ
จริงอยู่ที่ว่าถ้าตรวจเจอโรคร้ายแรงหรือโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ก็จะได้หาแนวทางรักษาให้ทันท่วงที ซึ่งสามารถใช้บัตร 30 บาทรักษาทุกโรค หรือสิทธิ์ประกันสังคมรักษาได้ แต่จะดีกว่าไหมครับ ถ้าคุณมีประกันสุขภาพคอยคุ้มครองความเสี่ยงโรคร้ายก่อนที่จะตรวจเจอ เพราะจะได้รับการรักษาที่เร็วขึ้น
ซึ่งข้อดีของการมีประกันสุขภาพคือครอบคลุมทุกโรคร้ายเรื้อรังหรือโรคร้ายแรง หมดห่วงเรื่องการจ่ายค่ารักษาพยาบาลในจำนวนเต็ม ยิ่งถ้าการรักษานั้นอยู่ในวงเงินประกัน ก็ไม่ต้องควักเงินสักบาทในการรักษาโรคร้ายแรงนั้น หรือถ้าเกินกว่าวงเงิน คุณก็จ่ายแค่เงินส่วนต่างที่เหลือ ซึ่งประกันสุขภาพจะช่วยชีวิตคุณได้จริง ๆ
หรือในกรณีที่ไม่เจอโรคร้ายแรง แต่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อย ๆ ประกันสุขภาพก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเอง เพราะสามารถใช้สิทธิ์ผู้ป่วยนอก OPD ได้เลยครับ หรือถ้าเป็นผู้ป่วยใน IPD ต้องแอดมิด ก็สามารถนอนโรงพยาบาลได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะจ่ายค่าห้องหรือค่ารักษาพยาบาลไหวไหม
ประกันติดโล่ไม่ได้บอกว่าสิทธิรักษาพยาบาลของประกันสังคมไม่ดีนะครับ เพียงแต่ว่าถ้ามีประกันสุขภาพเสริมเข้าไปด้วยก็จะได้รับการรักษาที่ไวขึ้น เครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่า เพราะคุณมีประกันสุขภาพคุ้มครอง
ดังนั้น ถ้าคุณอ่านแล้วรู้สึกกังวลใจว่าถ้าไปใช้ตรวจสุขภาพประจำปีกับประกันสังคมแบบฟรี ๆ แล้วเกิดเจอโรคร้ายแรงจะทำยังไง ประกันติดโล่แนะนำว่า มีประกันสุขภาพเอาไว้อุ่นใจกว่าจริง ๆ ซึ่งประกันสุขภาพของประกันติดโล่มีให้เลือกทั้ง 3 แบบเลยคือ
- ประกันสุขภาพส่วนบุคคล Health Mini เบี้ยเริ่มต้น 3,200 บาทต่อปี (วันละ 9 บาท)
- ประกันสุขภาพส่วนบุคคล Health Easy เบี้ยเริ่มต้น 2,160 บาทต่อปี (วันละ 6 บาท)
- ประกันสุขภาพเฉพาะโรค Care for Kids เบี้ยเริ่มต้น 1,600 บาทต่อปี (วันละ 4 บาท)
ถ้าคุณสนใจอยากอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับประกันสุขภาพ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ > ประกันสุขภาพ ประกันติดโล่ < ได้เลย! ประกันสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นจริง ๆ
สรุป
ผู้ประกันตนของประกันสังคมสามารถตรวจสุขภาพประจำปีกับประกันสังคมได้เลยกับโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ ใช้เพียงแค่บัตรประชาชนยื่นที่จุดเวชระเบียนของโรงพยาบาลได้เลย การตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อให้รับรู้ว่าร่างกายผิดปกติจากเดิมไหม มีโรคอะไรแอบแฝงหรือเปล่า ถ้าตรวจพบก็จะได้หาแนวทางรักษาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้การจ่ายค่ารักษาเบาลงได้คือประกันสุขภาพ ดังนั้น ประกันติดโล่อยากบอกว่า ประกันสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นจริง ๆ มีเอาไว้แล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าตอนจะใช้แล้วไม่มีนะครับ