รู้ทัน อาการเริ่มต้นมะเร็งปากมดลูก โรคร้ายที่ป้องกันได้
ถ้ากล่าวถึงโรคร้ายแรงของผู้หญิง คงหนีไม่พ้นโรคมะเร็งปากมดลูกอย่างแน่นอน ทุกๆ ปี จะมีหญิงไทยกว่า 2,200 คนเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูก หรือสามารถคิดง่ายๆ ว่ามีผู้เสียชีวิตวันละ 6 คน และมีผู้ป่วยเพิ่มปีละกว่า 5,000 คนเลยทีเดียว แต่จริงๆ แล้วเราสามารถป้องกันและรักษาได้ ทำความเข้าใจสาเหตุ และอาการของมะเร็งปากมดลูกเพื่อวางแผนรักษาได้อย่างทันท่วงที
สาเหตุมะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไร
เหตุผลที่บอกว่ามะเร็งปากมดลูกสามารถป้องกันได้ ก็เพราะว่ามะเร็งชนิดนี้กว่า 99% เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ที่ชื่อว่า เอชพีวี (HPV) ซึ่งไม่มีการติดต่อทางพันธุกรรมแต่อย่างใด
อ้าว แล้วเชื้อนี้มันมาได้ยังไง? ปัจจัยหลักของการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีนี้ก็คือ การมีเพศสัมพันธ์นั่นเอง แม้ว่าเชื้อไวรัสจะไม่ทำให้เกิดอาการในผู้ชาย แต่มันก็ทำให้ฝ่ายชายเป็นพาหะของโรคแทน และเมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็จะส่งต่อเชื้อตัวนั้นมาทางฝ่ายหญิง ในสมัยก่อนเราจะตรวจพบมะเร็งปากมดลูกในสตรีวัย 50 ขึ้นไป แต่ทว่าช่วงวัยดังกล่าวกลับลดต่ำลงเรื่อยๆ ในทุกปี เราเริ่มพบมะเร็งปากมดลูกในหญิงวัย 40 หรือแม้กระทั่ง 30 ปลายๆ
สรุปแล้ว สาเหตุมะเร็งปากมดลูกคืออะไร?
สิ่งที่เป็นสาเหตุหลักคือ อัตราการมีเพศสัมพันธ์ที่เกิดก่อนเวลาอันควรเพิ่มมากขึ้น เพราะตัวเชื้อมะเร็งปากมดลูกจะใช้เวลาราว 10 – 15 ปีในการก่อตัว ฉะนั้นต่อให้เราติดเชื้อไวรัสเอชพีวีไปแล้ว เราก็ไม่มีทางรู้ตัวเลย จนกว่าจะมีอาการผิดปกติของโรคปรากฏขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก
เหล่านี้คือปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
- มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย โดยเฉพาะช่วง 16-17 ปี ที่ร่างกายกำลังเติบโต โดยเฉพาะเซลล์ปากมดลูก จึงทำให้ไวต่อสารก่อมะเร็งมากกว่าปกติ
- มีคู่นอนหลายคน หรือคู่นอนของตัวเองมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น มีความเสี่ยงที่คู่นอนจะรับเชื้อมาแล้วถ่ายทอดสู่ตัวคุณ เพราะอย่าลืมนะ จริงๆ แล้วโรคนี้ผู้ชายเป็นพาหะสำคัญ
- ทานยาคุม ติดต่อกันนานกว่า 5 ปี
- ผ่านการคลอดบุตร มากกว่า 1 คน
- การสูบบุหรี่ คือ ตัวกระตุ้นชั้นดี มันไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องมะเร็งปอด มันทำให้เชื้อมะเร็งอื่นๆ ทำงานดีขึ้นด้วย
- มีประวัติการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ
หลายคนคงมีคำถาม อ้าว แล้วถ้าเราไม่เคยหลับนอนกับใคร อย่างนี้คือไม่เสี่ยงมะเร็งปากมดลูกเลยเหรอ เราขออธิบายว่า มันลดความเสี่ยงไปได้เยอะมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เป็น 100% ดังนั้น ผู้หญิงทุกคนควรหาวิธีป้องกัน พร้อมสังเกตอาการเริ่มต้นมะเร็งปากมดลูก เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งชนิดนี้ให้ได้มากที่สุด
สัญญาณเตือนอาการของมะเร็งปากมดลูก
สังเกตสัญญาณเตือน อาการเบื้องต้นมะเร็งปากมดลูกได้ด้วยตัวเอง ยิ่งรู้ตัวไวเท่าไหร่ ยิ่งดีกับตัวเองมากเท่านั้น และอาการที่ว่ามีดังนี้
- เลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ มีเลือดออกในช่วงไม่ใช่ประจำเดือน หรือเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือนไปแล้ว
- มีอาการตกขาวผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ช่องคลอดมีหนอง ของเหลวที่มีเลือดปนไหลออกมา
- แสบบริเวณช่องคลอด ปัสสาวะขัด หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- ประจำเดือนมามากกว่าปกติ
- เจ็บช่วงเชิงกราน หลัง และขา
- น้ำหนักลดแบบไม่ทราบสาเหตุ
สัญญาณเตือนเหล่านี้ คือ อาการคนเป็นมะเร็งปากมดลูก ถ้าไม่มีการดูแลรักษาที่ทันท่วงที อาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
อาการของมะเร็งปากมดลูกระยะต่างๆ
มะเร็งปากมดลูกเป็นยังไง? สำหรับอาการคนเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะต่างๆ คล้ายกับมะเร็งชนิดอื่นๆ ที่มี 4 ระยะ ไม่รวมระยะเริ่มต้นที่เป็นระยะ 0 ซึ่งรายละเอียดของอาการคร่าวๆ จะมีดังนี้
ระยะเริ่มต้น
เซลล์ปากมดลูกเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า หรือสังเกตได้ยากมาก ถ้าตรวจพบก่อนจะมีการกระจายตัว มีแนวโน้มจะใช้ลวดไฟฟ้าผ่าตัดออกได้ทันที ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์
ระยะที่ 1
เซลล์ปากมดลูกเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็ง แต่ยังอยู่เฉพาะบริเวณปากมดลูกเท่านั้น สามารถรักษาได้โดยการผ่าตัด
ระยะที่ 2
ระยะนี้เซลล์มะเร็งจะเริ่มลุกลามออกนอกปากมดลูกไปยังช่องคลอด หรืออุ้งเชิงกราน มะเร็งในระยะที่สองเป็นต้นไปไม่สามารถทำการผ่าตัดเพื่อรักษาได้ ต้องใช้รังสี และเคมีบำบัดเป็นหลัก
ระยะที่ 3
มะเร็งจะลุกลามไปที่ผนังอุ้งเชิงกราน มีผลกระทบกับไต ทำให้การทำงานของไตเสื่อมลงจนอาจเกิดอาการไตวาย ซึ่งมีผลได้กับไตทั้งสองข้าง
ระยะที่ 4
เซลล์มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียง เช่น ลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ หรือทวารหนัก ทำให้เกิดอาการผิดปกติกับอวัยวะนั้นๆ และมีโอกาสที่เซลล์มะเร็งลามไปถึงปอดและสมอง เป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวิตได้ แม้จะดูน่ากลัว แต่อย่างที่ได้กล่าวไว้ มะเร็งปากมดลูกเราสามารถป้องกันได้
วิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้อย่างเห็นผล
เราจะป้องกันเจ้าโรคนี้ยังไงดี ? ขึ้นชื่อว่ามะเร็ง แค่นี้มันก็เป็นเรื่องอันตรายมากแล้ว แถมยังเกิดในจุดที่สังเกตลำบากอีก ยิ่งยากจะเข้าถึงไปกันใหญ่
นอกจากเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกข้างต้นแล้ว ควรหาวิธีป้องกันอื่นๆ ที่จะช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคมะเร็งชนิดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นก็คือ การฉีดวัคซีนป้องกันเอชพีวี โดยเฉพาะในผู้หญิงอายุ 9-26 ปี ที่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์ จะช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70% แต่ถ้าสาวๆ คนไหนผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้วก็ไม่ต้องตกใจ เราก็สามารถฉีดวัคซีนตัวนี้ได้ เพียงแต่ควรผ่านการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเบื้องต้นมาก่อนเท่านั้น
โดยการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มีรายละเอียดดังนี้
- การตรวจแปปเสมียร์ (Pap Smear) : คือ การใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เก็บเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูก และนำไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการทางเซลล์วิทยา
- การตรวจตินเพร็พ (Thin Prep Test) : เป็นการตรวจที่พัฒนามาจากการตรวจแปปเสมียร์ แต่จะมีความแม่นยำและประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากจะใช้อุปกรณ์เฉพาะที่มีความแม่นยำมากขึ้น และอุปกรณ์เก็บรักษาที่มีคุณภาพมากเพื่อส่งตรวจห้องปฏิบัติการต่อไป
- การตรวจระดับ DNA : คือ การตรวจมะเร็งปากมดลูกร่วมกับการตรวจดีเอ็นเอของเชื้อ HPV โดยวิธีนี้สามารถตรวจเจาะลึกได้ด้วยว่า ถ้าเราติดเชื้อ HPV จะติดสายพันธุ์ไหน อันตรายมากหรือเปล่า และตรวจโรคแอบแฝงได้ด้วย
- การตรวจอื่นๆ ตามวิจารณญาณของแพทย์ ซึ่งการตรวจสอบมะเร็งจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอทุกปี โดยเฉพาะผู้มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
หลายคนคงกังวลใจ แต่จริงๆ แล้วอาจไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิด เพราะปัจจุบันมีการตรวจสอบด้วยความละเอียด และแม่นยำมากกว่าเดิม อีกทั้งวัคซีนป้องกันเองก็มีคุณภาพสูง อีกทั้งโรงเรียนบางแห่งก็มีการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรีอีกด้วย โดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
สรุป มะเร็งปากมดลูกป้องกันได้
แต่แค่การตรวจสอบบางครั้งคงไม่พอ เพราะเราทราบแล้วว่ามะเร็งต้องตรวจประจำ และมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากที่จะส่งผล จะเป็นการดีกว่ามั้ยถ้าเราเลือกจะป้องกันความเสี่ยงอีกทางด้วยการทำประกัน
ใครที่กำลังมองหาประกันมะเร็งที่ไหนดี ประกันติดโล่มีประกันมะเร็งที่จะช่วยคุณแบ่งเบาภาระทางการเงิน ถ้าตรวจเจอมะเร็ง บริษัทประกันพร้อมจ่ายทันทีสูงสุดถึง 300,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 600,000 บาท แถมครอบคลุมถึงการเดินทางอีกด้วย ถ้าสนใจสามารถกรอกแบบฟอร์มให้พวกเราติดต่อกลับได้เลยครับ