วิธีดูกรมธรรม์รถยนต์เบื้องต้น อ่านยังไง ทำความเข้าใจง่ายๆ

ทุกครั้งที่ต่อประกันรถยนต์ก็จะได้รับกรมธรรม์ชุดใหม่ แต่หลายคนอาจไม่เคยเปิดอ่านกรมธรรม์รถยนต์อย่างจริงจังเลย หรือบางครั้งก็ลืมไปแล้วว่าเก็บเอกสารไว้ที่ไหน ทำให้ไม่แน่ใจว่าความคุ้มครองที่มีนั้นครอบคลุมแค่ไหนกันแน่ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปครับ เพราะบทความนี้จากประกันติดโล่จะมาสอนวิธีดูกรมธรรม์รถยนต์แบบจับมือทำ ชี้เป้าทุกจุดสำคัญที่ต้องดู รับรองว่าอ่านจบแล้วจะเข้าใจสิทธิประโยชน์ของตัวเองได้เต็มที่แน่นอนครับ
กรมธรรม์รถยนต์คืออะไร ทำไมต้องให้ความสำคัญ
กรมธรรม์รถยนต์ คือ เอกสารที่เป็น “สัญญา” ระหว่างตัวคุณ (ผู้เอาประกัน) และบริษัทประกันภัย โดยมีสถานะเป็นเอกสารทางกฎหมายที่ระบุรายละเอียดความคุ้มครอง สิทธิประโยชน์ เงื่อนไข และข้อยกเว้นต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน เปรียบเสมือนคู่มือที่บอกว่าบริษัทประกันจะเข้ามาช่วยเหลือดูแลคุณในด้านใดบ้างเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ดังนั้น การทำความเข้าใจกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์จึงสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้คุณรักษาสิทธิ์ของตัวเองและใช้ประโยชน์จากประกันที่จ่ายไปได้อย่างคุ้มค่าที่สุดครับ
เปิดตารางกรมธรรม์ 9 จุดสำคัญที่ต้องเช็กในใบกรมธรรม์รถยนต์
เมื่อได้เอกสารกรมธรรม์รถยนต์มาอยู่ในมือแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะอ่านยากนะครับ ลองมาดูวิธีดูกรมธรรม์รถยนต์ 9 จุดสำคัญไปพร้อมๆ กันเลย
1. ส่วนบนสุดของตาราง: เลขกรมธรรม์และบริษัทประกัน
นี่คือส่วนแรกสุดที่ต้องมองหาครับ โดยจะระบุชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทประกันภัยไว้อย่างชัดเจน และที่สำคัญที่สุดคือ “เลขที่กรมธรรม์” ซึ่งเป็นเหมือนเลขบัตรประชาชนของประกันฉบับนี้ ใช้ในการอ้างอิงทุกครั้งที่ติดต่อกับบริษัทประกัน ไม่ว่าจะสอบถามข้อมูล แจ้งเคลม หรือต่ออายุประกันในปีถัดไป
2. ข้อมูลผู้เอาประกันภัย (และผู้ขับขี่ระบุชื่อ ถ้ามี)
ส่วนนี้คือข้อมูลส่วนตัวของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ และเลขบัตรประชาชน ถูกต้องตรงตามเอกสารทางราชการทุกตัวอักษร เพราะหากข้อมูลผิดพลาด อาจส่งผลกระทบทำให้กระบวนการอนุมัติเคลมล่าช้า หรือเกิดปัญหาในการยืนยันตัวตนได้ในอนาคต ซึ่งเป็นขั้นตอนพื้นฐานของวิธีดูกรมธรรม์รถยนต์ที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาดครับ
3. รายละเอียดรถยนต์คันที่เอาประกัน
ตรวจสอบข้อมูลรถยนต์ของคุณให้ถี่ถ้วน ได้แก่ ยี่ห้อ, รุ่น, ปี, สี, หมายเลขตัวถัง (VIN), และหมายเลขทะเบียน ว่าตรงกับรถยนต์คันจริงและข้อมูลในเล่มทะเบียนรถหรือไม่ โดยเฉพาะ “หมายเลขตัวถัง” ที่ต้องถูกต้อง 100% เพราะหากข้อมูลส่วนนี้ผิดพลาด อาจเปรียบเสมือนว่ารถของคุณไม่มีกรมธรรม์รถยนต์ฉบับนี้คุ้มครองอยู่เลย
4. ระยะเวลาที่คุ้มครอง
จุดนี้สำคัญมากครับ ในตารางจะระบุ “วันเริ่มต้นคุ้มครอง” และ “วันสิ้นสุดความคุ้มครอง” ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งโดยปกติจะมีอายุ 1 ปีเต็ม การหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุจะช่วยเตือนให้คุณวางแผนต่อกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ล่วงหน้าได้ทันท่วงที ป้องกันปัญหารถไม่มีประกันคุ้มครองแม้เพียงวันเดียว
5. รายละเอียดความคุ้มครองหลัก
นี่คือหัวใจของวิธีดูกรมธรรม์รถยนต์เลยครับ เป็นส่วนที่บอกว่าประกันของคุณคุ้มครองอะไรบ้าง โดยจะแบ่งเป็นข้อๆ ชัดเจน ดังนี้
- ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก คือความคุ้มครองความเสียหายที่เราก่อขึ้นกับคู่กรณี ทั้งชีวิต, ร่างกาย (ค่ารักษาพยาบาล) และทรัพย์สิน (ค่าซ่อมรถ/ทรัพย์สิน)
- ความเสียหายต่อรถยนต์ คือค่าซ่อมรถยนต์คันเอาประกัน โดยจะระบุ “ทุนประกัน” หรือวงเงินสูงสุดที่จะซ่อมให้ กรณีรถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้ก็จะได้รับเงินชดเชยตามทุนประกันนี้เช่นกัน
- ความคุ้มครองเพิ่มเติมตามเอกสารแนบท้าย เป็นความคุ้มครองพิเศษที่ซื้อเพิ่ม เช่น ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA), ค่ารักษาพยาบาล, และเงินประกันตัวผู้ขับขี่
6. วงเงินความคุ้มครอง และเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย
ในส่วนรายละเอียดความคุ้มครองแต่ละข้อ จะมีช่องที่ระบุ “จำนวนเงินเอาประกันภัย” หรือที่เรียกกันว่า “ทุนประกัน” ซึ่งคือวงเงินสูงสุดที่บริษัทจะจ่ายให้ในแต่ละกรณี ส่วนท้ายของตารางจะสรุป “เบี้ยประกันภัย” ที่คุณต้องจ่าย โดยจะแยกเป็นเบี้ยสุทธิ, อากรแสตมป์, และภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้ตรวจสอบยอดรวมว่าตรงกับจำนวนเงินที่จ่ายไปหรือไม่
7. ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible และ Excess)
เป็นอีกจุดที่หลายคนสับสน แต่วิธีดูกรมธรรม์รถยนต์ให้เข้าใจนั้นไม่ยากครับ
- Deductible คือค่าเสียหายส่วนแรกที่คุณ “สมัครใจ” จ่ายเองเมื่อเป็นฝ่ายผิด เพื่อแลกกับส่วนลดค่าเบี้ยประกันตอนที่ซื้อ
- Excess คือค่าเสียหายที่คุณ “จำเป็นต้องจ่าย” ตามเงื่อนไขของ คปภ. (เช่น กรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี หรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้)
8. ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (Endorsement)
เอกสารแนบท้าย หรือ Endorsement คือเอกสารที่ใช้ “แก้ไข” หรือ “เพิ่มเติม” เงื่อนไขจากกรมธรรม์รถยนต์มาตรฐาน เช่น การระบุชื่อผู้ขับขี่เพื่อรับส่วนลดค่าเบี้ย, การติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ หรือการให้ส่วนลดประวัติดี ควรอ่านเอกสารส่วนนี้ให้ละเอียดว่ามีเงื่อนไขพิเศษอะไรเพิ่มเติมมาบ้าง
9. เงื่อนไขและข้อยกเว้นทั่วไป
ส่วนท้ายสุดของใบกรมธรรม์รถยนต์จะระบุถึงเงื่อนไขและสถานการณ์ที่ประกัน “จะไม่คุ้มครอง” ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องรู้ไว้เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด ควรอ่านให้เข้าใจ โดยตัวอย่างข้อยกเว้นที่พบบ่อย ได้แก่
- เมาแล้วขับ (มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์)
- ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรือใช้ใบขับขี่หมดอายุ
- ใช้รถยนต์ในทางที่ผิดกฎหมาย เช่น แข่งขันความเร็ว หรือปล้นทรัพย์
- ใช้รถลากจูงคันอื่น หรือนำไปใช้รับจ้าง/ให้เช่า (หากไม่ได้ระบุในกรมธรรม์)
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูกรมธรรม์รถยนต์
กรมธรรม์รถยนต์หาย ต้องทำอย่างไร?
เมื่อทำกรมธรรม์รถยนต์ตัวจริงหาย สามารถติดต่อบริษัทประกันภัยหรือโบรกเกอร์ของคุณได้โดยตรง เพื่อแจ้งความประสงค์ขอออกเอกสารฉบับใหม่ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการขอเอกสารใหม่ เช่น ต้องการขอใหม่เพื่อติดรถไว้ ในกรณีนี้ไม่ต้องแจ้งความ บริษัทประกันจะออกเป็นสำเนากรมธรรม์ให้กับคุณ แต่หากเป็นกรณีรถหาย หรือเสียหายโดยสิ้นเชิง (Total Loss) ผู้เอาประกันภัยจะต้องไปแจ้งความเพื่อนำใบบันทึกประจำวันมายืนยันการขอออกกรมธรรม์ฉบับจริงใหม่ ซึ่งในระหว่างรอเอกสาร เรายังคงได้รับความคุ้มครองตามปกติครับ
กรมธรรม์รถยนต์ กับ พ.ร.บ. แตกต่างกันอย่างไร?
กรมธรรม์รถยนต์ (ประกันภาคสมัครใจ) ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของเราและคู่กรณี รวมถึงค่ารักษาพยาบาลและทรัพย์สินตามวงเงินในเงื่อนไขของกรมธรรม์ ส่วน พ.ร.บ. (ประกันภาคบังคับ) เป็นกฎหมายที่รถทุกคันต้องมี โดยจะคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพของคนเท่านั้น ไม่คุ้มครองความเสียหายของตัวรถครับ
สรุปเช็กกรมธรรม์รถยนต์ง่ายกว่าที่คิด
เห็นไหมครับว่าวิธีดูกรมธรรม์รถยนต์ให้เข้าใจนั้นไม่ซับซ้อนเลย เพียงค่อยๆ ตรวจสอบข้อมูลสำคัญทั้ง 9 จุดตามที่แนะนำไป ก็จะช่วยให้คุณทราบถึงสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองทั้งหมดที่ควรจะได้รับ ทำให้คุณใช้ประกันรถยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังเป็นการรักษาสิทธิ์ของตัวเองเมื่อต้องแจ้งเคลมอีกด้วย การสละเวลาอ่านสักนิด รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนครับไม่ว่าจะเดินทางใกล้ไกล หรือมีไลฟ์สไตล์การใช้รถแบบไหน ก็อย่าลืมเลือกประกันรถยนต์ที่ใส่ใจและพร้อมดูแลคุณในทุกสถานการณ์นะครับ ที่ประกันติดโล่ เราพร้อมให้บริการด้านประกันรถยนต์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ ให้คุณอุ่นใจได้ในทุกเส้นทาง พร้อมทีมงานที่เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาครับ