หนูเข้ารถ ทิ้งรอยหนูกัดสายไฟรถไว้ ประกันรับผิดชอบไหม?
ใครเลยจะรู้ว่าภายในห้องเครื่องยนต์ของรถ จะกลายเป็นที่อยู่อาศัยของ “หนู” ซึ่งถ้าหนูเข้ารถแล้วอยู่กันดีๆ ยังพอให้อภัยได้ แต่นี่เล่นทิ้งรอยหนูกัดสายไฟรถยนต์ในห้องเครื่องยนต์ให้ดูต่างหน้า ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด หรือ กัดสายไฟส่องสว่าง ฯลฯ ถึงเวลาแล้วครับที่ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดว่า ทำอย่างไรเพื่อป้องกันหนูเข้ารถ ทำไมหนูถึงเข้ารถ และถ้าหนูกัดสายไฟ ใครรับผิดชอบ ประกันรถยนต์เคลมได้ไหม หาคำตอบเลยครับ!
ไขข้อข้องใจเหตุผลอะไรที่ทำให้หนูเข้ารถยนต์บ่อย ๆ
เคยเป็นกันไหมว่า เมื่อไหร่ที่ล้างรถยนต์ ฝนก็จะตกทันที ทำให้ต้องเสียอารมณ์นิดๆ เหตุการณ์นี้ส่งผลไปถึงเรื่องหนูเข้ารถยนต์ด้วย เพราะเมื่อล้างรถแล้วฝนตกอยู่บ่อยๆ คุณก็เบื่อที่จะล้างรถแล้ว ยิ่งเป็นช่วงฤดูฝน คงงดทำความสะอาดรถยนต์ไปเลย นี่เลยเป็นการทิ้งร่องรอยเหมือนโรยขนมปังตามทางให้หนูเข้ารถ ซึ่ง 2 เหตุผลหลักคือ
- หนูเข้ารถยนต์ เพราะมีเศษขนมหรือของกินเกลื่อนเต็มรถ หรือได้กลิ่นเศษขนม ของกิน
- หนูเข้ารถยนต์ เพราะต้องการไออุ่นจากเครื่องยนต์ เป็นที่พักพิงยามหนาวเหน็บ
ดังนั้น การไม่คิดทำความสะอาดรถยนต์เลย จึงเป็นการบอกสัญญาณที่ดีว่าหนูเข้ารถยนต์ได้ เข้ามาพักพิงได้ แถมยังมีเศษขนมทิ้งไว้ให้เป็นอาหารยามหิวโซ เมื่อไม่มีอะไรกินจึงเริ่มหาอย่างอื่นแทะ ทิ้งรอยหนูกัดไว้เต็มไปหมด นี่จึงเป็นอีกหนึ่งที่มาว่าทำไมหนูเข้ารถและหนูกัดสายไฟรถครับ
วิธีป้องกันไม่ให้หนูเข้ารถแล้วทิ้งรอยหนูกัดสายไฟเอาไว้
ถ้าหนูเข้ารถแล้วต้องทำให้รถเสียหาย ทิ้งรอยหนูกัดไว้ให้ดูเป็นของขวัญ ส่งผลให้รถสตาร์ทไม่ติด สายไฟส่องสว่างไม่ทำงาน ร้ายที่สุดคือไปกัดสายเบรครถยนต์ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุรถชนครั้งใหญ่โต เพื่อป้องกันเหตุการณ์ร้ายๆ ที่จะเกิดขึ้น การป้องกันหรือไล่หนูออกจากรถจึงเป็นสิ่งที่ควรทำมากครับ ซึ่งมีวิธีดังนี้
-
ทำความสะอาดรถยนต์
เข้าใจดีว่าล้างรถแล้วฝนตกทำให้หงุดหงิดพอสมควร จึงไม่อยากล้างรถบ่อยๆ แล้ว แต่ถ้าไม่อยากให้หนูเข้ารถ อยากป้องกันหนูเข้ารถ วิธีแรกก็ต้องทำความสะอาดรถยนต์ครับ แต่ประกันติดโล่ไม่ได้หมายความว่าให้ทำความสะอาดรถชุดใหญ่ที่ใช้โฟมล้างรอบๆ ตัวรถ ล้างรถจนเงาวับนะครับ
แต่หมายถึงให้ทำความสะอาดแค่ภายในรถ ด้วยการดูดฝุ่น ดูดเศษขนม นำแผ่นรองเท้ามาทำความสะอาด โดยคุณสามารถใช้บริการคาร์แคร์ หรือทำเองก็ได้ นี่เป็นวิธีกำจัดแหล่งอาหารของหนู แล้วหนูก็จะไม่เข้าไปอยู่ในตัวรถแล้วทิ้งรอยหนูกัดไว้ให้ปวดใจ ไม่ต้องอารมณ์เสียเวลาฝนตกอีกด้วย
-
สตาร์ทรถเวลาไม่ได้ใช้นาน ๆ
กลับเข้าสู่ช่วง Work From Home กันอีกแล้ว หลายคนที่ไม่ได้ขับรถออกไปทำงาน ต้องจอดรถทิ้งเอาไว้หน้าบ้าน ลานจอดรถคอนโด หรือโรงรถนานๆ รู้ไหมครับว่า หนูเข้ารถแล้วใช้ห้องเครื่องยนต์ของคุณเป็นแหล่งพักพิงในนั้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้วสิ่งที่ต้องทำคือ หมั่นสตาร์ทเครื่องยนต์บ่อยๆ ด้วย เพราะ
- ถ้าไม่สตาร์ทรถยนต์เป็นเวลานาน จะสตาร์ทรถไม่ติด ลมยางรถอ่อน หรือแบตเตอรี่รถยนต์หมด
- สตาร์ทรถให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้น หนูเข้ารถก็จะออกจากรถทันที เพราะเครื่องร้อนเกินกว่าจะเป็นไออุ่น
ดังนั้น ควรสตาร์ทรถอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ตามปกติ และยังไล่หนูออกจากรถด้วยความร้อนของเครื่องยนต์อีกด้วย คราวนี้ก็จะได้เจอกับปัญหาหนูกัดสายไฟรถน้อยลง
หนูกัดสายไฟรถ เคลมประกันรถยนต์ได้ไหม?
เมื่อหนูเข้ารถยนต์ของคุณได้แล้ว นอกจากจะใช้เป็นที่พักอาศัยและแหล่งหาอาหาร หนูยังทำเรื่องร้ายๆ อย่างการทิ้งรอยหนูกัดสายไฟรถเอาไว้ให้คุณเห็นจนใจเจ็บ ส่งผลให้รถใช้งานไม่ได้ สตาร์ทรถไม่ติด
คำถามที่ผุดขึ้นมาคือ หนูกัดสายไฟรถ เคลมประกันรถยนต์ได้ไหม? คำตอบคือ “ได้” เพราะประกันรถยนต์มีไว้คุ้มครองความเสี่ยงอยู่แล้ว แต่ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ เพราะมีเพียงประกันชั้น 1 เท่านั้นที่คุ้มครอง
แต่ถ้าสายไฟรถขาดเพราะเกิดจากการดัดแปลงรถยนต์ หรือจอดทิ้งไว้จนรถยนต์เสื่อมสภาพส่งผลให้สายไฟขาด ในกรณีนี้ประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครอง
ดังนั้น สิ่งที่คุณต้องทำคือ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน แล้วหลังจากนั้นจึงติดต่อประกันรถยนต์เพื่อขอเคลมประกันรถยนต์ พร้อมแจ้งวัน เวลา สถานที่ที่เกิดเหตุตามขั้นตอนของการเคลมประกัน
ซึ่งถ้าคุณใช้ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครองนะครับ ต้องจ่ายค่าซ่อมรถ ค่าเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์เองทั้งหมด เพราะอยู่นอกเหนือการคุ้มครองของประกัน
หากคุณกำลังมองหาประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่สามารถผ่อนจ่าย 0% ได้นาน 6 เดือน ขอเคลมได้ทันทีหลังจากที่โดนหนูกัดสายไฟรถขาด ประกันรถยนต์ ประกันติดโล่ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเหตุการณ์นี้เลยครับ!
สรุป
ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ที่ว่าหนูเข้ารถยนต์ แล้วทิ้งรอยหนูกัดสายไฟรถเอาไว้ให้ดูต่างหน้า จนรถสตาร์ทไม่ติด สิ่งที่เจ้าของรถทำได้คือ หมั่นทำความสะอาดภายใน ดูดเศษขนมออกให้หมด เป็นการกำจัดแหล่งอาหารของหนู เพื่อให้รถมีสภาพดีอยู่กับคุณไปนานๆ ซึ่งคุณสามารถเพิ่มความคุ้มครองอีกชั้นด้วยประกันรถยนต์ครับ ที่จะจ่ายค่าเสียหายให้กับคุณเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ทำให้คุณเบาเงินเรื่องค่าซ่อมรถยนต์ ค่าอะไหล่รถยนต์ไปได้มากโขเลยนะครับ