รวมเบอร์ฉุกเฉินทางด่วน พร้อมวิธีรับมือเมื่อเกิดเหตุระหว่างทาง

ทางด่วน ทางพิเศษ เป็นเส้นทางที่ช่วยอำนวยความสะดวก และลดระยะเวลาการเดินทางในช่วงเวลาเร่งรีบ หรือเมื่อต้องขับรถทางไกลไปต่างจังหวัด ให้คุณใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดได้มากกว่าเส้นทางปกติ แต่ก็เป็นเส้นทางที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนได้เช่นกัน ถ้ารถเสีย รถชน บนทางด่วนจะเรียกประกันมาที่เกิดเหตุได้มั้ย ต้องรับมือยังไงเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ประกันติดโล่จะมาแนะนำเบอร์ทางด่วนที่ควรรู้ในกรณีที่รถเสีย พร้อมแนะนำขั้นตอนการปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างปลอดภัย และรวดเร็วที่สุด
เบอร์โทรศัพท์ทางด่วนเพื่อแจ้งเหตุฉุกเฉิน
เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนเราสามารถโทร 191 เพื่อแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายได้ หรือโทร 1669 กรณีที่มีการเจ็บป่วยฉุกเฉิน แต่เพื่อให้คุณได้รับความช่วยเหลืออย่างปลอดภัย และรวดเร็วที่สุด สามารถติดต่อเบอร์โทรฉุกเฉินทางด่วนได้ดังนี้
- 1543 ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทาง (EXAT Call Center) ตลอด 24 ชั่วโมง
- 1586 เบอร์ฉุกเฉินกรมทางหลวง
- 1586 กด 7 เบอร์ฉุกเฉินมอเตอร์เวย์
- 1233 เบอร์ฉุกเฉินดอนเมืองโทลเวย์
ถ้าไม่สามารถติดต่อศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทาง (EXAT Call Center) 1543 ได้ สามารถติดต่อศูนย์ควบคุมทางพิเศษต่าง ๆ โดยตรง ดังนี้
- ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ระบบทางด่วนขั้นที่ 1) 02-247-2709
- ทางพิเศษศรีรัช (ระบบทางด่วนขั้นที่ 2) 02-664-6400
- ทางพิเศษฉลองรัช (ทางพิเศษสาย รามอินทรา-อาจณรงค์) 02-319-7166-7
- ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางด่วนสายบางนา-ชลบุรี) 02-746-9499
- ทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางพิเศษสายบางประอิน-ปากเกร็ด) 02-567-5680
- ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) 02-442-0877-8
ขั้นตอนปฏิบัติที่ถูกต้อง เมื่อรถเสีย รถชน บนทางด่วน
- ตั้งสติ อย่าลงจากรถ ถ้ารถยังพอเคลื่อนย้ายได้ ให้ประคองเข้าชิดไหล่ทางซ้ายเพื่อจอด
* กรณีรถเสียหายจนไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เจ้าหน้าที่ทางด่วนจะมีบริการลากรถเสียออกจากพื้นที่จนถึงทางลงทางด่วน ไม่ควรออกมายืนนอกตัวรถเด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
- เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อเตือนรถคันอื่นให้รู้ว่ารถของคุณกำลังมีปัญหา
- นั่งรอภายในรถ คาดเข็มขัดนิรภัยไว้ตลอดเวลา
- ติดต่อ 1543 เบอร์โทรศัพท์ทางด่วนเพื่อแจ้งเหตุฉุกเฉิน จะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
- แจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น ว่ารถเสียบนทางด่วน หรือรถชนบนทางด่วน
- แจ้งจุดที่อยู่ หลักกิโลเมตร โดยสังเกตจากขอบทาง หรือสถานที่ใกล้เคียง
- แจ้งจุดหมายที่กำลังไป มุ่งหน้าจากไหนไปไหน
* กรณีมือถือแบตหมด ให้ใช้โทรศัพท์ฉุกเฉินที่ติดตั้งไว้บริเวณไหล่ทางด้านซ้าย ทุก ๆ 500-1,000 เมตร เมื่อโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ให้กลับไปรอภายในรถ
รถชน รถเสียบนทางด่วน โทรเรียกประกันมาเคลียร์ได้มั้ย
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ประกันเข้าไปดำเนินการ เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน เพราะเป็นเส้นทางที่กฎหมายกำหนดให้รถใช้ความเร็วสูงสุดได้ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงเป็นเส้นทางที่รถส่วนใหญ่จะวิ่งเร็ว การปฏิบัติงาน หรือดำเนินการใด ๆ ที่กีดขวางการจราจร อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนตามมาได้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันมักใช้รถจักรยานยนต์เป็นหลัก ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 139 ในระเบียบเกี่ยวกับการจราจรในทางพิเศษ พ.ศ. 2524 ห้ามมิให้รถจักรยานยนต์วิ่งในทางพิเศษ ผู้ใดฝ่าฝืนถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย จะต้องถูกระวางโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท เจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันจึงไม่สามารถขึ้นไปปฏิบัติงานบนทางด่วนได้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทางด่วน หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าควบคุมสถานการณ์ให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงดำเนินการนำรถออกจากเส้นทางดังกล่าวในภายหลัง
ขั้นตอนการติดต่อบริษัทประกันรถเพื่อทำการเคลม
เมื่อปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้น มีเจ้าหน้าที่ทางด่วนเข้าควบคุมสถานการณ์ และอำนวยความสะดวกเรื่องการจราจรเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ ติดต่อบริษัทประกันรถของคุณเพื่อเคลมค่าสินไหมทดแทนต่อไป
- ติดต่อบริษัทประกันเพื่อแจ้งเหตุโดยเร็ว และชี้แจงข้อมูลอย่างละเอียด เช่น สถานที่เกิดเหตุ ลักษณะความเสียหาย เพื่อให้บริษัทประกันส่งเจ้าหน้าที่มาประสานงานได้อย่างเหมาะสม
- ถ่ายภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ รวมถึงรอยชน หรือความเสียหายของรถให้ละเอียด เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการเคลม และอย่าลืมถ่ายภาพบัตรประชาชนคู่กรณีไว้ด้วย เพื่อป้องกันการหลบหนี
- นัดหมายกับเจ้าหน้าที่ประกัน และคู่กรณีในพื้นที่ที่ปลอดภัย เช่น สถานีตำรวจ จุดพักรถริมทางด่วน
การดำเนินการเหล่านี้จะช่วยให้ขั้นตอนการเคลมเป็นไปอย่างราบรื่น มีข้อมูลเพียงพอ และหลักฐานที่ชัดเจน ทำให้ผู้เอาประกันได้รับการชดเชยอย่างเต็มที่ ตรงตามขอบเขตความคุ้มครองของกรมธรรม์
รถเสียบนทางด่วนมีค่าใช้จ่ายมั้ย
การขอความช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีรถเสียบนทางด่วนหรือมอเตอร์เวย์จากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงนั้น ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ! ไม่ว่าจะเป็นการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.), กรมทางหลวง (ดูแลมอเตอร์เวย์) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ เจ้าหน้าที่จะเข้ามาช่วยเหลือคุณ ณ จุดเกิดเหตุโดยไม่คิดค่าบริการ โดยความช่วยเหลือจะครอบคลุมดังนี้
- การแก้ไขเบื้องต้น หากเป็นปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่แก้ไขได้ทันที เจ้าหน้าที่จะช่วยจัดการให้รถของคุณกลับมาใช้งานได้ปกติ
- การลากรถออกจากพื้นที่อันตราย หากรถไม่สามารถขับเคลื่อนได้ เจ้าหน้าที่จะช่วยลากจูงรถของคุณออกจากพื้นที่กีดขวางการจราจร ไปยังทางลงหรือจุดพักรถที่ปลอดภัยที่สุดที่อยู่นอกเขตทางด่วน
ประกันรถยนต์ ช่วยแบ่งเบาภาระได้แค่ไหน?
สำหรับขอบเขตการดูแลของประกันรถยนต์นั้น จะให้การดูแลตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยแต่ละประเภทที่ทำไว้ ซึ่งประกันรถยนต์แต่ละชั้นก็จะครอบคลุมความคุ้มครองแตกต่างกันไปดังนี้
- ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองครอบคลุมถึงกรณีรถเสียบนทางด่วนด้วย โดยส่วนใหญ่จะรวมค่าใช้จ่ายในการลากจูงรถไปยังอู่หรือศูนย์บริการในเครือ ยิ่งไปกว่านั้น บางบริษัทยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance) พ่วงมาให้ด้วย เช่น บริการเปลี่ยนยาง เติมน้ำมัน หรือพ่วงแบตเตอรี่
- ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ และ 3+ เน้นคุ้มครอง “อุบัติเหตุ” แบบมีคู่กรณีเป็นหลัก กรณีรถเสียจากการใช้งานตามปกติอาจไม่อยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครอง แต่หากรถเสียนั้นเป็นผลมาจากอุบัติเหตุ ก็ยังสามารถเคลมค่าลากจูงได้บางส่วนครับ
- ประกันภัยรถยนต์ 3 ความคุ้มครองจะเน้นไปที่ความเสียหายของคู่กรณีเป็นหลัก จึงไม่ครอบคลุมกรณีรถของตัวเองเสียบนทางด่วนครับ
สรุปเบอร์ทางด่วนที่ควรรู้ พร้อมวิธีรับมือเมื่อเกิดเหตุบนทางด่วน
เมื่อรถเสีย รถชน บนทางด่วน สิ่งสำคัญที่ต้องรีบดำเนินการคือ แจ้งเจ้าหน้าที่ผ่านเบอร์โทรฉุกเฉินทางด่วน หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจทางหลวง ให้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ ดูแลอำนวยความสะดวกจุดเกิดเหตุให้มีความปลอดภัยก่อน จากนั้นจึงติดต่อบริษัทประกันรถ และดำเนินการเคลมค่าสินไหมทดแทนต่อไป สำหรับลูกค้าประกันติดโล่ ถ้านึกอะไรไม่ออกจริงๆ สามารถโทรหา 1501 เพื่อให้เราช่วยประสานงานเจ้าหน้าที่ทางหลวงได้ตลอด 24 ชม. ดังนั้น การทำประกันรถยนต์ โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 จะทำให้ได้รับความคุ้มครองครบทุกรูปแบบ เคลมได้ทุกการชน ติดต่อง่ายเสมอ ให้คุณหมดกังวลไม่ว่าจะเกิดเหตุฉุกเฉินบนทางด่วน หรือพื้นที่ไหนก็ตาม ประกันติดโล่ พร้อมให้บริการด้วยประกันรถยนต์จากบริษัทชั้นนำทุกประเภท ไม่ว่ารถใช้เยอะหรือใช้น้อยก็หายห่วงได้ทุกการเดินทาง
ที่มา: One2Car