แนวข้อสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ 2567 พร้อมข้อควรรู้ก่อนไปสอบ
รถมอไซค์เป็นยานพาหนะที่หลายคนเลือกใช้ขับขี่ไปทำงาน หรือเมื่อต้องอาศัยอยู่ในเขตตัวเมืองที่การจราจรแออัด ซึ่งใบขับขี่มอเตอร์ไซค์โดยทั่วไปจะมี 2 ประเภท คือ ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล (อายุการใช้งานใบขับขี่ 5 ปี) และใบขับขี่มอเตอร์ไซค์สาธารณะ (อายุการใช้งานใบขับขี่ 3 ปี) ที่ใช้สำหรับการรับจ้าง นอกจากการอ่านแนวข้อสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ มีอะไรอีกบ้างที่จำเป็นต้องรู้
ข้อควรรู้ก่อนไปสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์
ใบขับขี่รถจักรยานยนต์แต่ละประเภท มีวัตถุประสงค์ และข้อกำหนดที่แตกต่างกัน การเลือกประเภทใบขับขี่ให้เหมาะกับการใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากต้องการสอบใบขับขี่มอไซแบบสาธารณะเพื่อใช้ขับรถรับจ้าง ขับรถส่งอาหาร ต้องได้รับใบขับขี่มอไซส่วนบุคคลชั่วคราวมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีด้วย มาดูกันว่าใบขับขี่รถจักรยานยนต์แต่ละประเภท ผู้สอบต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
คุณสมบัติผู้สอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
- รถจักรยานยนต์ที่มีขนาดความจุกระบอกสูบรวมกันไม่เกิน 110 ลูกบาศก์เซนติเมตร
- อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์
- ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการจนเป็นที่เห็นได้ว่าไม่สามารถขับรถได้
- ไม่มีโรคประจำตัวที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ
- ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน
- ไม่อยู่ระหว่างถูกยึด หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
คุณสมบัติผู้สอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ
- ต้องได้รับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราวมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- ผู้ขอรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี
- ไม่อยู่ระหว่างถูกยึด หรือเพิกถอนใบขับขี่
- ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษ หรือถูกเจ้าพนักงานเปรียบเทียบปรับตั้งแต่สองครั้งขึ้นไป สำหรับความผิดเกี่ยวกับการขับรถ เว้นแต่จะพ้นโทษครั้งสุดท้ายไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- ไม่มีโรคติดต่อตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
- ไม่ติดสุรายาเมา หรือยาเสพติดให้โทษ
- ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด
- กรมการขนส่งทางบกจะมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ขอรับ/ขอต่ออายุใบขับขี่
เอกสารประกอบคำขอ
- บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง
- ใบรับรองแพทย์ มีอายุไม่เกิน 1 เดือน
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลมีอายุไม่น้อยกว่า 1 ปี (กรณีขอใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ)
ค่าธรรมเนียม
- ค่าคำขอ 5 บาท
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 100 บาท
- รถจักรยานยนต์สาธารณะ 3 ปี 150 บาท
แนวข้อสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 2567 พร้อมเฉลย
ข้อสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์กับรถยนต์เหมือนกันไหม?
สำหรับการสอบภาคทฤษฎีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ จะเป็นแบบเดียวกันกับการสอบใบขับขี่รถยนต์เลยครับ แต่จะแตกต่างกันที่การสอบภาคปฏิบัติ ที่จะเป็นไปตามประเภทของยานพาหนะ โดยผู้เข้าสอบจะต้องทำแบบทดสอบจำนวน 50 ข้อ (ข้อสอบปรนัย ให้เลือก ก-ง) ภายในเวลา 1 ชั่วโมง เกณฑ์ในการสอบผ่านคือ จะต้องตอบถูกอย่างน้อย 45 ข้อ หรือคิดเป็น 90% ขึ้นไป ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเตรียมตัวสอบใบขับขี่ประเภทใด ก็สามารถอ่านแนวข้อสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์นี้ได้เช่นกันครับ
แนวข้อสอบภาคทฤษฎี 9 หมวด
- หมวดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
- หมวดกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก
- หมวดเครื่องหมายพื้นทาง
- หมวดป้ายบังคับ
- หมวดป้ายเตือน
- หมวดป้ายแนะนำ
- หมวดมารยาทและจิตสำนึก
- หมวดเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย
- หมวดการบำรุงรักษารถ
แนวข้อสอบภาคปฏิบัติ 5 ท่า
ข้อสอบภาคปฏิบัติสำหรับรถจักรยานยนต์ จะมีการทดสอบทั้งหมด 5 ท่า ดังนี้
- ขับรถจักรยานยนต์โดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
- ขับรถจักรยานยนต์ ทรงตัวบนทางแคบ ทรงตัวไว้โดยไม่ให้เท้าแตะพื้นประมาณ 10 วินาที
- ขับรถจักรยานยนต์ซิกแซกเข้าโค้งแคบ รูปตัว Z ห้ามชนกรวยล้ม
- ขับรถจักรยานยนต์เข้าโค้ง รูปตัว S ห้ามชนกรวยล้ม
- ขับรถจักรยานยนต์ซิกแซก หลบสิ่งกีดขวาง
เตรียมตัวสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยตัวเอง
เตรียมตัวสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ออนไลน์ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ก่อนไปสอบภาคปฏิบัติที่สำนักงานขนส่ง
- อ่าน e-Book คู่มืออบรมใบขับขี่ สำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์
- จองคิวผ่านแอป DLT Smart Queue เพื่อมาอบรมที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้าน เลือกเมนูประเภทงานบริการ ‘งานใบอนุญาต’
- อบรม 5 ชั่วโมง
- สอบข้อเขียน (ภาคทฤษฎี 9 หมวด)
- ทดสอบขับรถ (ภาคปฏิบัติ 5 ท่า)
- ถ่ายรูป ชำระค่าธรรมเนียม และรับใบขับขี่ Smart Card
ใบขับขี่ที่ออกในครั้งแรกจะเป็นแบบชั่วคราว มีอายุเพียง 2 ปีเท่านั้น หากต้องการเปลี่ยนเป็นใบขับขี่แบบ 5 ปี สามารถทำได้ก่อนวันหมดอายุ 90 วัน ไม่ต้องอบรม แต่ต้องทดสอบสมรรถภาพร่างกายและสายตา จองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ล่วงหน้า และเตรียมเอกสารให้พร้อม ช่วยให้การดำเนินการที่กรมขนส่งเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว
สรุป การสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์
การเตรียมตัวที่ดี ฝึกทำตามแนวข้อสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ข้างต้น จะช่วยให้คุณสอบผ่านได้ภายในครั้งเดียว เมื่อมีความรู้ที่ถูกต้อง และมีทักษะที่สำคัญในการขับขี่ คุณก็จะใช้รถใช้ถนนได้อย่างมั่นใจ และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นบนท้องถนน อย่างไรก็ตาม อย่าลืมให้ความสำคัญกับการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ด้วย หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ประกันก็พร้อมให้ความคุ้มครองทุกค่าใช้จ่ายตามกรมธรรม์ เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียงปีละ 290 บาทเท่านั้น
ที่มา: กรมการขนส่งทางบก