ไม่มีใบขับขี่ อยากซื้อใบขับขี่ออนไลน์ถูกกฎหมายไหม
ไม่ว่าจะเป็นการซื้อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์หรือการซื้อใบขับขี่รถยนต์ที่โฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ นั้น หลายคนอาจกำลังสงสัยว่า ซื้อใบขับขี่ถูกกฎหมายหรือไม่นะ? โดยเฉพาะคนที่ยังไม่เคยทำใบขับขี่เลย อย่าตัดสินใจซื้อเด็ดขาดเลยนะครับ เพราะอาจทำให้คุณถูกหลอกให้โอนเงินฟรี ๆ หรือเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายได้เลย มาทำความเข้าใจกันว่า หากคุณซื้อใบขับขี่ออนไลน์จะต้องเจอกับอะไรบ้าง พร้อมวิธีเตรียมตัวสำหรับการทำใบขับขี่ครั้งแรกให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ซื้อใบขับขี่ถูกกฎหมายไหม?
ใบอนุญาตขับขี่เป็นเอกสารที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบก ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกไม่มีนโยบายให้ประชาชนซื้อใบขับขี่ออนไลน์ มีเพียงบริการต่อใบขับขี่ออนไลน์เท่านั้น สำหรับการทำใบขับขี่จะต้องไปติดต่อขอทำ หรือรับใบอนุญาตขับขี่กับนายทะเบียนแห่งท้องที่ที่ตนมีภูมิลำเนาหรือมีถิ่นที่อยู่ หรือที่หน่วยงานกรมการขนส่ง, สำนักงานขนส่งเขตพื้นที่, สำนักงานขนส่งจังหวัด, สำนักงานขนส่งสาขา หรือ สถานที่อื่นตามที่อธิบดีประกาศกำหนด
ดังนั้น การซื้อใบขับขี่ออนไลน์ถือว่าผิดกฎหมายนะครับ หากคุณหลงเชื่ออาจเจอเข้ากับแกงค์มิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินโดยที่คุณไม่ได้อะไรกลับมาเลย ถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว หรือได้ใบขับขี่ปลอม หากคุณใช้ใบขับขี่ปลอมจะมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการมีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาทเลยนะครับ หากพบการกระทำผิดสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1584 หรือ www.dlt.go.th
ทำใบขับขี่ครั้งแรก ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
ก่อนอื่นทำความเข้าใจก่อนว่าใบขับขี่มีกี่ประเภทเพื่อที่จะได้เลือกทำได้อย่างถูกต้อง สำหรับใบขับขี่ประเภท บ. (ส่วนบุคคล) หรือใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล จะเป็นใบอนุญาตขับขี่สำหรับการใช้งานส่วนบุคคล รวมถึงสามารถใช้เคลื่อนย้าย หรือทำการขนส่งเพื่อการค้าได้เช่นเดียวกัน (เฉพาะธุรกิจส่วนตัว) แต่จำกัดน้ำหนักการขนส่งไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม และต้องไม่ใช่การรับจ้าง
ขั้นตอนการทำใบขับขี่ครั้งแรก
- จองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์
สามารถจองคิวออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือผ่านเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการทำใบขับขี่ และอย่าลืมบันทึกหน้าจอเก็บไว้เป็นหลักฐานแสดงกับเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานขนส่งด้วยนะครับ
- เตรียมเอกสาร
สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ในการทำใบขับขี่ครั้งแรกคือ บัตรประชาชนตัวจริง และใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน
- ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
ทดสอบสายตาทางลึก-ทางกว้าง ตาบอดสี และทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า
- อบรมทำใบขับขี่
สำหรับการทำใบขับขี่ครั้งแรกจะต้องไปอบรมที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น ไม่สามารถอบรมออนไลน์ได้ โดยระยะเวลาอบรมจะใช้เวลาอย่างน้อย 5 ชั่วโมง แบ่งเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงเช้า (9.30 – 12.00 น.) และช่วงบ่าย (13.00 – 15.30 น.)
- สอบข้อเขียน
เป็นการสอบด้วยคอมพิวเตอร์ผ่านระบบ Electronic Examination (E-exam) โดยข้อสอบใบขับขี่ภาคทฤษฎีจะมีทั้งหมด 50 ข้อ 9 หมวด เป็นข้อสอบแบบปรนัยหรือแบบเลือกข้อที่ถูกต้อง คุณจะต้องทำข้อสอบให้ได้ 45 ข้อขึ้นไป หรือทำได้ 90% ขึ้นไปจึงจะสอบผ่านภาคทฤษฎี หากไม่ผ่านจะต้องมาสอบใหม่ในวันถัดไป หรือไม่เกิน 90 วันหลังอบรม ดังนั้น อยากสอบผ่าน อย่าลืมเตรียมตัวฝึกทำข้อสอบใบขับขี่ไปก่อนล่วงหน้านะครับ
- สอบปฏิบัติ
การทดสอบขับรถเป็นการสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติ โดยคุณจะต้องนัดหมายในวันอื่น ซึ่งขั้นตอนการสอบภาคปฏิบัตินี้จะมีด้วยกัน 3 ท่าคือ ท่าเดินหน้าถอยหลังในทางตรง ท่าเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า และท่าถอยหลังเข้าจอดและออกจากช่องว่างด้านซ้าย (ถอยเข้าซอง)
- ชำระเงิน
ขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นการชำระค่าทำใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 200 บาท รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 100 บาท และค่าคำขอ 5 บาท พร้อมถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
ทำใบขับขี่ครั้งแรกจะได้เป็นใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราว
ใบขับขี่ชนิดชั่วคราว หรือใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราว เป็นใบขับขี่ใบแรกสุดที่คุณจะได้รับจากการทำใบขับขี่ โดยจะมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่า โดยจะมีอายุการใช้งาน 2 ปีเท่านั้น หากคุณใช้ใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราวจนครบอายุการใช้งานแล้ว ในครั้งต่อไปที่ทำการต่ออายุใบขับขี่ คุณจะได้รับใบขับขี่รถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 5 ปี
ใบขับขี่หน้าตาเป็นอย่างไร?
- หมายเลขใบขับขี่
- ชนิด/ประเภทของใบขับขี่
- วันที่ออกใบขับขี่และวันหมดอายุ
- ข้อมูลส่วนบุคคลภาษาไทย
- ข้อมูลส่วนบุคคลภาษาอังกฤษ
- จังหวัดที่ออกใบขับขี่
- ภาพถ่ายเจ้าของบัตร
- ตราสัญลักษณ์กรมการขนส่งทางบก
สรุป การซื้อใบขับขี่ออนไลน์ผิดกฎหมาย
ไม่ว่าคุณจะเคยทำใบขับขี่มาแล้วหรือยังไม่เคยทำใบขับขี่เลย การซื้อใบขับขี่ไม่ว่าจะจากช่องทางไหนก็ตามถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะครับ หากหลงเชื่ออาจเจอเข้ากับแกงค์มิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินโดยที่คุณไม่ได้อะไรกลับมาเลย ถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว หรือได้ใบขับขี่ปลอม ซึ่งมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการด้วย เพราะใบขับขี่เป็นสิ่งที่จะพิสูจน์ว่า บุคคลนั้นมีความสามารถในการขับขี่ตรงตามที่กฎหมายกำหนด มีความรู้และทักษะที่จำเป็นในการขับขี่ได้อย่างปลอดภัย และเพื่อความสบายใจตลอดการขับขี่โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับ เงินติดล้อแนะนำให้ทำประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์หรือประกันภัยรถยนต์ติดไว้เสมอ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ก็พร้อมจะคุ้มครองคุณและทรัพย์สินได้อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก: ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย