รวมเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับเคลือบสีรถ คืออะไร จำเป็นต้องทำไหม

รถยนต์ถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงและมีความสำคัญในชีวิตประจำวัน แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่าการเคลือบสีรถนั้นจำเป็นต้องทำหรือไม่ เมื่อไปใช้บริการคาร์แคร์ มักมีตัวเลือกเสริม “เคลือบสีรถเพิ่มไหมครับ” ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่ความจริงแล้ว การเคลือบสีรถมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด บทความนี้ประกันติดโล่จะมาแนะนำให้คุณรู้จักเรื่องการเคลือบสีรถอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นประเภท ข้อดี และเวลาที่เหมาะสมในการเคลือบ เพื่อให้รถของคุณดูเงางาม สวยงาม และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้นครับ
เคลือบสีรถ คืออะไร
เคลือบสีรถ คือการใช้สารเคมีพิเศษเคลือบลงบนพื้นผิวรถยนต์เพื่อเพิ่มความเงางามและปกป้องสีรถจากสภาพแวดล้อมภายนอก เปรียบเสมือนการเพิ่มชั้นป้องกันให้กับผิวรถ การเคลือบสีรถไม่ได้เป็นเพียงแค่การเพิ่มความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยยืดอายุของสีรถให้คงความสดใสและเงางามได้ยาวนานยิ่งขึ้น ช่วยป้องกันจากปัจจัยภายนอกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคราบสกปรก แสงแดด หรือมลภาวะบนท้องถนนที่อาจทำให้สีรถเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร
เคลือบสีรถจำเป็นไหม ดียังไง
การเคลือบสีรถอาจดูเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่หลายคนเลือกที่จะประหยัด แต่เมื่อพิจารณาถึงประโยชน์ระยะยาวที่ได้รับ จะพบว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วยรักษาสภาพรถให้ดูใหม่ลดการเสื่อมสภาพของสีรถ และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในอนาคต มาดูข้อดีของการเคลือบสีรถกันครับ
1. ช่วยป้องกันคราบสิ่งสกปรก
การเคลือบสีรถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันสิ่งสกปรกเกาะติดตัวถังรถ เพราะสารที่ใช้ในการเคลือบมีคุณสมบัติลดการยึดเกาะของคราบสกปรกต่างๆ โดยเฉพาะคราบน้ำในฤดูฝนที่เป็นตัวการสำคัญทำให้เกิดรอยด่างบนสีรถ เมื่อเคลือบสีรถแล้ว หยดน้ำจะไม่เกาะติดบนตัวถัง แต่จะกลิ้งออกไป ทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น บางครั้งเพียงแค่ใช้ผ้าขนนุ่มเช็ดก็สามารถกำจัดคราบสกปรกได้ โดยไม่ต้องล้างรถ
2. เพิ่มความเงางามให้กับสีรถยนต์
การเคลือบเงารถช่วยเพิ่มความสดใสและความเงางามให้กับสีรถ ทำให้รถดูใหม่เหมือนเพิ่งออกจากโชว์รูม ยิ่งคุณเลือกใช้กรรมวิธีการเคลือบที่มีประสิทธิภาพสูงเท่าไร รถของคุณก็จะยิ่งดูสวยงามสดใสมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ ความเงางามของรถยังบ่งบอกถึงการดูแลรักษารถที่ดี สะท้อนถึงบุคลิกของเจ้าของรถที่ใส่ใจในรายละเอียดและรักการดูแลรถอย่างสม่ำเสมอ
3. ป้องกันปัญหารถสีซีดจากแสงแดด
แสงแดดเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้สีรถซีดจาง โดยเฉพาะรังสียูวีที่ทำลายเนื้อสีรถได้อย่างช้าๆ การเคลือบสีรถช่วยสร้างชั้นป้องกันแสงแดดและรังสียูวี ป้องกันไม่ให้สีรถซีดจางไวเกินไป ถือเป็นการยืดอายุของสีรถยนต์ได้เป็นอย่างดี เปรียบเสมือนการทาครีมกันแดดให้กับผิวรถ ช่วยให้รถของคุณสู้แดดได้ดีขึ้น และรักษาความสดใสของสีไว้ได้ยาวนาน
4. สามารถลบรอยขีดข่วนเล็กๆ ได้
การเคลือบสีรถในบางประเภท โดยเฉพาะการเคลือบซิลิโคนและการเคลือบแก้ว สามารถช่วยป้องกันและลดความเสียหายจากรอยขีดข่วนเล็กๆ ได้ เพราะชั้นเคลือบจะทำหน้าที่เหมือนเกราะป้องกันอีกชั้นหนึ่ง รอยขีดข่วนเล็กๆ อาจจะเกิดขึ้นที่ชั้นเคลือบแทนที่จะเป็นตัวสีรถโดยตรง ทำให้ง่ายต่อการแก้ไขและไม่ทำให้สีรถเสียหาย การเคลือบสีรถจึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรอยขีดข่วนในระยะยาวได้อีกด้วย
เคลือบสีรถยนต์มีกี่ประเภท
ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การเคลือบสีรถในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ แต่ละประเภทก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกประเภทการเคลือบสีรถขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ และลักษณะการใช้งานรถของคุณ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ดังนี้
1. เคลือบแว๊กซ์
การเคลือบแว๊กซ์เป็นรูปแบบการเคลือบสีรถที่พบได้ทั่วไปและมีราคาประหยัดที่สุด ด้วยการใช้ครีมขัดสีที่มีส่วนผสมของแว๊กซ์ทาลงบนผิวรถ ช่วยเพิ่มความเงางามให้กับรถได้อย่างรวดเร็ว การเคลือบแว๊กซ์สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ แต่ข้อเสียคือมีอายุการใช้งานค่อนข้างสั้นเพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของครีมขัดและสภาพการใช้งานรถ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาดูแลรถเป็นประจำและมีงบประมาณจำกัดครับ
2. เคลือบสีประเภทน้ำ
การเคลือบสีประเภทน้ำ หรือที่เรียกว่า โพลิเมอร์ซีลแลนท์ เป็นการเคลือบที่ใช้สารโพลิเมอร์เคลือบทั่วทั้งคันรถ เปรียบเสมือนการฉาบฟิล์มบางๆ ให้กับผิวรถ จุดเด่นของการเคลือบประเภทนี้คือสามารถทนอุณหภูมิได้สูงถึง 140 องศา ทำให้ปกป้องสีรถได้ดีกว่าแบบแว๊กซ์ มีอายุการใช้งานประมาณ 1-2 เดือน เหมาะสำหรับรถที่ต้องจอดกลางแจ้ง หรือใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง อย่างไรก็ตาม ความเงางามของการเคลือบแบบนี้จะน้อยกว่าการเคลือบแบบอื่น จึงเหมาะกับผู้ที่เน้นการปกป้องสีรถมากกว่าความสวยงาม
3. เคลือบซิลิโคน
การเคลือบซิลิโคนเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจสำหรับการดูแลสีรถ โดยซิลิโคนจะทำหน้าที่เหมือนยางใสที่เคลือบบนผิวรถ ช่วยปกป้องสีรถจากแสงแดด น้ำฝน และสิ่งสกปรกต่างๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วนเล็กๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ การเคลือบซิลิโคนให้ความเงางามใกล้เคียงกับการแว๊กซ์ แต่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ามาก สามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามควบคู่ไปกับความทนทาน แต่ก็มาพร้อมกับราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วยครับ
4. เคลือบแก้ว
การเคลือบแก้วรถยนต์ถือเป็นเทคโนโลยีการเคลือบสีรถที่ล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในปัจจุบัน โดยใช้สารที่มีส่วนผสมของซิลิกาเหมือนกับที่ใช้ผลิตแก้ว มาเคลือบบนผิวรถ ช่วยป้องกันการเปรอะเปื้อนได้ดีมาก โดยเฉพาะคราบน้ำ คราบโคลน และยางมะตอย ไม่ให้เกาะติดบนตัวรถ การเคลือบแก้วมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 2-3 ปี แต่ก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุดเช่นกัน โดยส่วนใหญ่ เจ้าของรถหรูหรือรถที่มีมูลค่าสูงจะเลือกการเคลือบแก้วเพื่อการปกป้องสูงสุดและความสวยงามที่ยาวนานครับ
ควรเคลือบรถแบบไหนดี
การเลือกเคลือบรถแบบไหนดีนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งงบประมาณ ลักษณะการใช้งานรถ และความต้องการส่วนตัว หากคุณมีงบประมาณจำกัดและสามารถดูแลรถได้บ่อยๆ การเคลือบแว๊กซ์ธรรมดาก็เพียงพอแล้ว แต่หากคุณต้องการความคุ้มค่าในระยะยาว การเคลือบซิลิโคนหรือเคลือบแก้วจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมที่ใช้รถก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกรูปแบบเคลือบสีรถ หากคุณต้องจอดรถกลางแจ้งเป็นประจำ หรือใช้งานในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองมาก ก็ควรเลือกการเคลือบที่ให้การปกป้องสูง เช่น การเคลือบซิลิโคน หรือเคลือบแก้ว แต่หากใช้งานในเมืองและมีที่จอดในร่ม การเคลือบแว๊กซ์หรือเคลือบประเภทน้ำก็อาจเพียงพอครับ
เมื่อไหร่ที่เราควรทำการเคลือบสีรถยนต์
การเคลือบสีรถควรทำเมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของการเคลือบที่คุณเลือกใช้ โดยทั่วไปหากเป็นการเคลือบแว๊กซ์ธรรมดา ควรทำทุก 1-2 สัปดาห์ สำหรับการเคลือบประเภทน้ำ ควรทำทุก 1-2 เดือน การเคลือบซิลิโคนควรทำทุก 6-12 เดือน และการเคลือบแก้วควรทำทุก 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการใช้งานรถ
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่บ่งชี้ว่าถึงเวลาที่ควรเคลือบสีรถแล้ว เช่น เมื่อสังเกตเห็นว่าน้ำไม่เป็นเม็ดกลมเวลาตกลงบนตัวรถ หรือเมื่อสีรถเริ่มดูหมองและขาดความเงางาม หรือหลังจากที่รถผ่านสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น ฝนกรด พายุฝุ่น หรือแสงแดดจัดเป็นเวลานาน
สำหรับรถใหม่ ควรทำการเคลือบสีรถทันทีหลังจากรับรถมาจากโชว์รูม เพื่อเป็นการปกป้องสีรถตั้งแต่เริ่มต้น ส่วนรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ควรขัดสีก่อนทำการเคลือบ เพื่อกำจัดรอยขีดข่วนเล็กๆ และคราบสกปรกที่ฝังแน่น ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ
สรุป เคลือบสีรถยนต์ วิธีดูแลรถให้เงางามสดใหม่อยู่เสมอ
การเคลือบสีรถถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับการดูแลรักษารถยนต์ ช่วยปกป้องสีรถจากปัจจัยภายนอกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด น้ำฝน คราบสกปรก หรือรอยขีดข่วนเล็กๆ ทำให้รถดูเงางาม สวยงาม และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น การเลือกประเภทการเคลือบสีรถขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความต้องการ และลักษณะการใช้งานรถของแต่ละคน ไม่ว่าคุณจะเลือกการเคลือบแบบใด สิ่งสำคัญคือการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการล้างรถ การจอดรถในที่เหมาะสม และการหมั่นตรวจสอบสภาพสีรถ จะช่วยให้รถของคุณดูใหม่และสวยงามอยู่เสมอครับนอกจากการดูแลรักษารถด้วยการเคลือบสีรถแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ซึ่งจะช่วยปกป้องรถของคุณจากอุบัติเหตุและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ประกันติดโล่มีแผนประกันรถยนต์ที่หลากหลาย ให้คุณเลือกปรับแต่งได้ตามความต้องการ ด้วยเบี้ยประกันที่คุ้มค่า และความคุ้มครองที่ครอบคลุม เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง หากคุณสนใจ สามารถเช็กเบี้ยประกันรถยนต์กับประกันติดโล่ผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษมากมายที่รอคุณอยู่ครับ
ที่มา: โตโยต้า ลีสซิ่ง, Nissan SMT