เคลมสด เคลมแห้งคืออะไร ต่างกันยังไง แจ้งเคลมแบบไหนดี

เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน คนใช้รถหลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า เคลมสด และ เคลมแห้ง ซึ่งเป็นภาษาที่รู้กันสำหรับคนทำประกันภัยรถยนต์ หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าสองคำนี้มีความหมายว่าอะไรและสถานการณ์ไหนควรใช้การเคลมแบบใด วันนี้ประกันติดโล่จะมาไขทุกข้อสงสัย อธิบายความหมายและความแตกต่างของทั้งสองแบบให้เข้าใจง่าย ๆ เพื่อให้ทุกการขับขี่ของคุณอุ่นใจมากยิ่งขึ้นครับ
เคลมสด คืออะไร
เคลมสด คือ เคลมที่ต้องการพนักงานออกตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุเช่น รถชนรถมีคู่กรณี หรือมีผู้บาดเจ็บ รถคันเอาประกันภัยหรือรถคู่กรณีเสียหายมาก ซึ่งเคลมประเภทนี้ผู้ขับขี่รถคันเอาประกันหรือรถคู่กรณีจะได้รับใบหลักฐานในการติดต่อค่าเสียหายจาก พนักงานเคลมซึ่งสามารถนำไปติดต่อซ่อมที่อู่ในเครือของบริษัทประกันภัยได้ทันที
ข้อดีของการเคลมสด
- มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือ ข้อดีที่สำคัญที่สุดของการเคลมสด คือมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันภัยมายังที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบความเสียหายและให้คำแนะนำอย่างละเอียด
- จบปัญหาได้ทันที โดยเจ้าหน้าที่จะช่วยประเมินสถานการณ์และเจรจากับคู่กรณี ทำให้สามารถตกลงกันได้ว่าใครเป็นฝ่ายถูกหรือผิด และออกเอกสารใบเคลมให้เรียบร้อย ลดปัญหาขัดแย้งในภายหลัง
- หลักฐานครบถ้วน พนักงานสำรวจภัยจะถ่ายรูปและบันทึกรายละเอียดของอุบัติเหตุไว้เป็นหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการดำเนินการซ่อมและยืนยันความคุ้มครอง
- ดำเนินการซ่อมได้รวดเร็ว หลังจากได้รับใบเคลมจากเจ้าหน้าที่แล้ว เราสามารถนำรถเข้าซ่อมที่อู่หรือศูนย์บริการในเครือได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลารออนุมัติอีก
- สบายใจ หายห่วง เพราะการมีผู้เชี่ยวชาญมาดูแล ณ จุดเกิดเหตุ ช่วยลดความเครียดและความกังวลใจได้อย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ขับขี่มือใหม่
เคลมแห้ง คืออะไร
เคลมแห้ง คือ เคลมที่ไม่ต้องการพนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุออกตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุเช่น รถคันเอาประกันภัยเสียหายเล็กน้อยและไม่มีคู่กรณี ซึ่งเคลมประเภทนี้ ผู้เอาประกันภัยสามารถนำรถคันเอาประกันภัยเข้าไปติดต่อซ่อมที่อู่ในเครือของบริษัทฯ ได้ตลอดเวลาที่ผู้เอาประกันภัยสะดวกแต่ทั้งนี้ต้องก่อนกรมธรรม์หมดอายุ
ข้อดีของการเคลมแห้ง
- ประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอพนักงานสำรวจภัยมาที่เกิดเหตุ สามารถขับรถต่อไปทำธุระได้ตามปกติ แล้วค่อยนำรถไปเคลมเมื่อสะดวก
- มีความยืดหยุ่น สามารถเลือกวันและเวลาที่สะดวกในการนำรถเข้าไปแจ้งเคลมที่อู่หรือศูนย์บริการได้เลย ไม่ต้องรีบร้อนจัดการทันที
- รวบรวมเคลมทีเดียว หากมีรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ หลายจุด สามารถรวบรวมแล้วแจ้งเคลมแห้งในครั้งเดียวได้ แต่อาจเสียค่าเสียหายส่วนแรก Excess ในบางกรณีขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์
- ขั้นตอนไม่ซับซ้อน สำหรับอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี การแจ้งเคลมแห้งมีขั้นตอนที่ง่ายและรวดเร็ว เพียงแค่นัดวันเข้ารับบริการกับอู่พร้อมยื่นเอกสาร ก็สามารถแจ้งเคลมได้เลย
เคลมสด เคลมแห้งต่างกันยังไง
ความแตกต่างระหว่างการเคลมสด เคลมแห้ง คือความรุนแรงของอุบัติเหตุและระยะเวลาในการแจ้งเคลม ครับ หากเป็นอุบัติเหตุใหญ่ รถพังเสียหายมาก มีคู่กรณี หรือมีคนบาดเจ็บ และต้องโทรเรียกบริษัทประกันทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุ แบบนี้จะเรียกว่า “เคลมสด” ในทางกลับกัน หากเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อย เช่น รอยขูดขีด รอยเบียด หรือความเสียหายที่ไม่มีคู่กรณี ซึ่งเราไม่ได้แจ้งเคลมในทันที แต่เลือกที่จะรวบรวมไว้ก่อนแล้วค่อยไปแจ้งซ่อมในภายหลัง แบบนี้จะเรียกว่า “เคลมแห้ง” นั่นเองครับ
หัวข้อเปรียบเทียบ |
เคลมสด (Fresh Claim) |
เคลมแห้ง (Dry Claim) |
ลักษณะอุบัติเหตุ |
รถชนรถ มีคู่กรณี, มีผู้บาดเจ็บ, รถเสียหายหนัก |
อุบัติเหตุเล็กน้อย ไม่มีคู่กรณี เช่น เฉี่ยวเสา, รอยขีดข่วน |
การมีเจ้าหน้าที่ ณ ที่เกิดเหตุ |
ต้องมี พนักงานสำรวจภัยไปตรวจสอบ |
ไม่จำเป็นต้องมี พนักงานไปตรวจสอบ |
การแจ้งเคลม |
ต้องแจ้งบริษัทประกัน ทันที หลังเกิดเหตุ |
แจ้ง ภายหลัง ในวันที่สะดวก (ก่อนกรมธรรม์หมดอายุ) |
ขั้นตอนหลัก |
โทรเรียกประกัน > เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ > รับใบเคลม > นำรถเข้าซ่อม |
รวบรวมความเสียหาย > ขับรถไปที่อู่/ศูนย์บริการ > กรอกเอกสาร > นัดวันซ่อม |
เหมาะสำหรับ |
อุบัติเหตุที่ซับซ้อน, ต้องการคนกลางช่วยเจรจา และต้องการหลักฐานที่ชัดเจน |
ความเสียหายเล็กน้อยที่ไม่กระทบการขับขี่ และต้องการความสะดวก ไม่เสียเวลารอ |
ขั้นตอนการเคลมสดและเคลมแห้ง
เพื่อให้คุณเห็นภาพและเตรียมตัวได้ถูกต้อง ประกันติดโล่ได้สรุปขั้นตอนของทั้งการเคลมสดและการเคลมแห้ง โดยมีรายละเอียดและขั้นตอนดังนี้ครับ
ขั้นตอนการเคลมสด
- ตั้งสติและเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัยและเป็นสัญญาณให้รถคันอื่นระมัดระวัง
- โทรหาบริษัทประกันทันที แจ้งเลขทะเบียนรถหรือเลขกรมธรรม์ พร้อมทั้งเล่าสถานการณ์และตำแหน่งที่เกิดเหตุให้ชัดเจน
- ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เมื่อพนักงานสำรวจภัยเดินทางมาถึง ให้ข้อมูลตามความเป็นจริง พร้อมทั้งยื่นเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบขับขี่และสำเนากรมธรรม์
- รอรับใบเคลม เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความเสียหายและออกใบเคลมให้กับคุณและคู่กรณี
- นำรถเข้าศูนย์ซ่อม คุณสามารถนำรถพร้อมใบเคลมที่ได้รับ ไปยื่นที่อู่หรือศูนย์บริการในเครือเพื่อดำเนินการจัดซ่อมได้ทันที
ขั้นตอนการเคลมแห้ง
- ตรวจสอบความเสียหาย เมื่อพบร่องรอยบนรถ ให้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานเบื้องต้น
- เตรียมเอกสารให้พร้อม เช่น สำเนาใบขับขี่, สำเนาทะเบียนรถ และสำเนากรมธรรม์
- ติดต่ออู่หรือศูนย์บริการในเครือ ขับรถไปยังอู่ในเครือของบริษัทประกันที่คุณสะดวก
- กรอกเอกสารแจ้งเคลม ที่อู่จะมีแบบฟอร์มสำหรับแจ้งอุบัติเหตุ ให้คุณกรอกรายละเอียดลักษณะการเกิดเหตุให้ชัดเจน เช่น ถอยชนกระถางต้นไม้, เฉี่ยวกำแพงบ้าน เป็นต้น
- นัดวันนำรถเข้าซ่อม หลังจากยื่นเรื่องเรียบร้อย ทางอู่จะประเมินความเสียหายและนัดวันเพื่อนำรถเข้ามาจัดซ่อมต่อไป
บริการอะไรบ้างที่ครอบคลุมในการเคลมสดและเคลมแห้ง
ไม่ว่าจะเป็นการเคลมสดหรือเคลมแห้ง สิ่งที่ผู้เอาประกันจะได้รับคือความคุ้มครองตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งโดยหลักแล้วจะครอบคลุมบริการที่จำเป็นดังต่อไปนี้ครับ
- ค่าซ่อมแซมความเสียหายของรถยนต์ ครอบคลุมค่าแรงและค่าอะไหล่ในการซ่อมรถคันเอาประกันภัยให้กลับสู่สภาพเดิม ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการเคลมทั้งสองประเภท
- ค่าสินไหมทดแทนสำหรับบุคคลภายนอก ในกรณีการเคลมสดที่มีคู่กรณี ประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อมรถและค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณีตามวงเงินที่ระบุไว้
- ค่ารักษาพยาบาล หากอุบัติเหตุในการเคลมสดทำให้มีผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ ประกันจะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ์ในกรมธรรม์
- บริการรถยกฉุกเฉิน สำหรับอุบัติเหตุรุนแรงที่ต้องเคลมสดและรถไม่สามารถขับเคลื่อนได้ บริษัทประกันส่วนใหญ่จะมีบริการรถยกฉุกเฉินเพื่อนำรถของคุณไปยังอู่ซ่อมที่ใกล้ที่สุด
เอกสารที่ใช้ในการเคลมสดและเคลมแห้ง
เพื่อความรวดเร็วและราบรื่นในการดำเนินการเคลมประกัน ไม่ว่าจะเป็นเคลมสดหรือเคลมแห้งควรเตรียมเอกสารสำคัญเหล่านี้ไว้ให้พร้อมเสมอเมื่อต้องติดต่อกับบริษัทประกันนะครับ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ
- สำเนาใบขับขี่ของผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุ
- สำเนาทะเบียนรถ (เล่มฟ้า)
- สำเนาหน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
- ใบเคลมที่ได้รับจากพนักงาน
สรุปเคลมสดและเคลมแห้ง แตกต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างเคลมสด เคลมแห้ง ก็คือสถานการณ์และขั้นตอนการแจ้งเคลม หากเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี มีผู้บาดเจ็บ หรือรถเสียหายหนัก ควรเลือก “เคลมสด” เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาดูแลและจัดการปัญหาให้จบ ณ ที่เกิดเหตุ แต่หากเป็นเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยที่ไม่มีคู่กรณี “การเคลมแห้ง” ในภายหลังก็จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและสะดวกสบายกว่าครับ
ประกันรถยนต์เป็นสิ่งที่เจ้าของรถต้องมี ไม่ว่าจะใช้รถเยอะหรือน้อยก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ ที่สำคัญยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดได้ ประกันติดโล่ พร้อมให้บริการด้วยประกันรถยนต์กับแผนที่ครอบคลุมทุกความต้องการ หมดกังวลเรื่องการเดินทางดูแลทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคุณ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็อุ่นใจได้เสมอครับ
ที่มา: วิริยะประกันภัย