ประกันวินาศภัย คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง ใครควรทำ

ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การมีหลักประกันในชีวิตจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยหนึ่งในหลักประกันที่ช่วยให้คุณรับมือกับความเสี่ยงด้านทรัพย์สินได้อย่างอุ่นใจก็คือ “ประกันวินาศภัย” บทความนี้ ประกันติดโล่จะพาคุณไปทำความรู้จักกับประกันวินาศภัยในทุกมิติ ตั้งแต่ความหมาย ประเภท ความคุ้มครอง ไปจนถึงกลุ่มคนที่ควรทำประกันในแต่ละประเภท เพื่อให้คุณเลือกทำประกันได้ตรงกับความต้องการ และสามารถปกป้องทรัพย์สินของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดครับ
ประกันวินาศภัย คืออะไร
ประกันวินาศภัย (Non-Life Insurance) คือ การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินเป็นหลัก โดยผู้รับประกันภัยตกลงจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยหากเกิดความสูญเสีย หรือเสียหายจากภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ความเสียหายนี้สามารถประเมินค่าเป็นตัวเงินได้ ซึ่งแตกต่างจากประกันชีวิตที่มุ่งเน้นการคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และร่างกายของผู้เอาประกันเป็นหลักครับ
ประกันวินาศภัยมีกี่ประเภท
ประกันวินาศภัยสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลักๆ ตามลักษณะความคุ้มครองที่ต่างกัน ใครที่สงสัยว่าประกันวินาศภัยมีอะไรบ้าง ลองมาทำความเข้าใจกับประกันวินาศภัยแต่ละประเภทกันครับ
1. ประกันอัคคีภัย (Fire Insurance)
ประกันอัคคีภัย เป็นประกันวินาศภัยที่ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินจากความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้เป็นหลัก มีทั้งประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ประกันอัคคีภัยสำหรับสถานประกอบธุรกิจ และประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน โดยในปัจจุบันได้มีการขยายความคุ้มครองไปถึงภัยอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สินด้วย เช่น ภัยจากลมพายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ฟ้าผ่า หรือแม้แต่ภัยจากการโจรกรรม ทำให้ประกันอัคคีภัยกลายเป็นหนึ่งในประกันวินาศภัยที่มีความคุ้มครองครอบคลุมและจำเป็นสำหรับผู้ที่มีทรัพย์สินมูลค่าสูงครับ
ตัวอย่างความคุ้มครองประกันอัคคีภัย
- ความเสียหายจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า และการระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่าง หรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย
- ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น ลมพายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ลูกเห็บ
- ความเสียหายจากการโจรกรรมที่ปรากฏร่องรอยงัดแงะ (เมื่อซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม)
- ความเสียหายจากการปะทะหรือการชนของยานพาหนะหรือสัตว์พาหนะ
- ความเสียหายจากควัน (จากเหตุไฟไหม้)
- ความเสียหายต่อเครื่องไฟฟ้าอันเกิดจากการเดินเครื่องเกินกำลังหรือไฟฟ้าลัดวงจร
ใครบ้างที่ควรทำประกันอัคคีภัย
- เจ้าของบ้าน คอนโดมิเนียม หรืออาคารพาณิชย์
- ผู้ประกอบการธุรกิจประเภทต่างๆ
- ผู้ที่มีสินค้าคงคลังหรือทรัพย์สินมูลค่าสูงที่เก็บรักษาในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง
- ผู้ที่กำลังผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บางธนาคารกำหนดให้ต้องทำประกันอัคคีภัย)
- ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ดินถล่ม
2. ประกันภัยรถยนต์ (Car Insurance)
ประกันภัยรถยนต์เป็นประกันวินาศภัยที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการใช้รถยนต์ โดยสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ที่กฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องทำ และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจที่เจ้าของรถสามารถเลือกทำเพิ่มเติมได้ตามความต้องการ โดยประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจยังแบ่งย่อยออกเป็นหลายประเภท เช่น ประกันชั้น 1, 2+, 2, 3+ และ 3
ตัวอย่างความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์
- ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอกและผู้โดยสารในรถ
- ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ความเสียหายต่อตัวรถที่เอาประกันจากอุบัติเหตุ (สำหรับประกันภาคสมัครใจบางประเภท)
- การสูญหายหรือไฟไหม้ของตัวรถ (สำหรับประกันภาคสมัครใจบางประเภท)
- ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถที่เอาประกัน
- ค่าประกันตัวผู้ขับขี่ในกรณีที่เกิดคดีความ
ใครบ้างที่ควรทำประกันภัยรถยนต์
- เจ้าของรถทุกคนต้องทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตามกฎหมาย
- ผู้ที่ขับรถเป็นประจำ หรือต้องเดินทางไกลบ่อยครั้งควรทำประกันภาคสมัครใจเพิ่มเติม
- ผู้ที่มีรถใหม่หรือรถราคาแพงควรทำประกันชั้น 1 เพื่อคุ้มครองความเสียหายของตัวรถ
- ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อภัยธรรมชาติหรือเสี่ยงต่อการโจรกรรม
- ผู้ที่กำลังผ่อนชำระสินเชื่อรถยนต์ (เป็นเงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนด)
3. ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง (Marine Insurance and Logistics Committee)
ประกันภัยทางทะเลและขนส่งเป็นประกันวินาศภัยที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายของสินค้าและยานพาหนะในระหว่างการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางเรือ ทางอากาศ หรือทางบก ซึ่งในยุคที่การค้าระหว่างประเทศและการขนส่งสินค้ามีความสำคัญมากขึ้น ประกันประเภทนี้จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยบริหารความเสี่ยงให้กับผู้ประกอบการครับ
ตัวอย่างความคุ้มครองประกันภัยทางทะเลและขนส่ง
- ความเสียหายของสินค้าระหว่างการขนส่งจากอุบัติเหตุ เช่น เรือชน เรือล่ม อากาศยานตก รถคว่ำ
- ความเสียหายของสินค้าจากภัยธรรมชาติระหว่างการขนส่ง เช่น พายุ ฟ้าผ่า แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด
- ความเสียหายของตัวเรือ อากาศยาน หรือยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง
- ความสูญเสียจากการที่สินค้าถูกโยนทิ้งลงทะเลเพื่อความปลอดภัยของเรือ (Jettison)
- ความเสียหายจากการโจรกรรม ปล้นสะดม หรือการสูญหายบางส่วนของสินค้า
- ค่าใช้จ่ายในการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับสินค้า (Sue and Labor Charges)
ใครบ้างที่ควรทำประกันภัยทางทะเลและขนส่ง
- ผู้นำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ
- บริษัทขนส่งหรือบริษัทโลจิสติกส์
- เจ้าของเรือหรือยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง
- ธุรกิจที่ต้องขนส่งสินค้ามูลค่าสูงภายในประเทศ
- ห้างร้านหรือบริษัทที่ต้องส่งสินค้าไปให้ลูกค้าเป็นประจำ
4. ประกันภัยเบ็ดเตล็ด (Miscellaneous Insurance)
ประกันภัยเบ็ดเตล็ดเป็นประกันวินาศภัยที่ครอบคลุมความเสี่ยงอื่นๆ ที่ไม่อยู่ในขอบเขตของประกันทั้งสามประเภทข้างต้น มีความหลากหลายและสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะได้ ทำให้ประกันเบ็ดเตล็ดเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบันที่ความเสี่ยงมีความซับซ้อน และหลากหลายมากขึ้นครับ
ตัวอย่างความคุ้มครองประกันภัยเบ็ดเตล็ด
- ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล คุ้มครองการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ และค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ
- ประกันสุขภาพ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ
- ประกันการเดินทาง คุ้มครองอุบัติเหตุและความสูญเสียระหว่างการเดินทาง
- ประกันความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลอื่นที่เกิดจากการกระทำของผู้เอาประกัน
- ประกันภัยโจรกรรม คุ้มครองทรัพย์สินที่สูญหายจากการโจรกรรม
- ประกันภัยสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องจักรที่ใช้ในการประกอบกิจการ
ใครบ้างที่ควรทำประกันภัยเบ็ดเตล็ด
- บุคคลทั่วไปที่ต้องการความคุ้มครองจากอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วย
- ผู้ที่เดินทางบ่อยทั้งในและต่างประเทศ
- เจ้าของธุรกิจที่ต้องการคุ้มครองความรับผิดต่อลูกค้าหรือบุคคลภายนอก
- ผู้ที่มีทรัพย์สินมูลค่าสูงที่ต้องการคุ้มครองจากการโจรกรรม
- ธุรกิจที่ต้องพึ่งพาเครื่องจักรหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการดำเนินงาน
ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย เริ่มต้นที่เท่าไหร่
ค่าเบี้ยประกันวินาศภัยมีความแตกต่างกันไปตามประเภทของประกัน มูลค่าทรัพย์สินที่เอาประกัน ระดับความเสี่ยง และความคุ้มครองที่ต้องการ การเลือกทำประกันให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยทั่วไปแล้ว ค่าเบี้ยประกันวินาศภัยเริ่มต้นของแต่ละประเภทมีดังนี้
- ประกันอัคคีภัย : ประกันบ้านและคอนโดของ MSGI เริ่มต้นที่ 999 บาทต่อปี คุ้มครองครบทั้งคน บ้าน และทรัพย์สิน และอลิอันซ์ อยุธยา เริ่มต้นที่ 400 บาทต่อปี แต่ให้ความคุ้มครองเฉพาะบ้าน
- ประกันภัยรถยนต์ :
- พ.ร.บ. ทำที่ประกันติดโล่ สำหรับรถจักรยานยนต์ เริ่มต้นที่ 323.14 บาท, รถเก๋ง หรือรถกระบะ 4 ประตู เริ่มต้นที่ 645.21 บาท, รถบรรทุก เริ่มต้นที่ 967.28 บาท และรถโดยสารมากกว่า 7 ที่นั่ง เริ่มต้นที่ 1,182.35 บาท
- ประกันชั้น 1 ทำที่ประกันติดโล่ เริ่มต้นที่ 11,790 บาทต่อปี
- ประกันชั้น 2+ ทำที่ประกันติดโล่ เริ่มต้นที่ 5,670 บาทต่อปี
- ประกันชั้น 3+ ทำที่ประกันติดโล่ เริ่มต้นที่ 1,850 บาทต่อปี
- ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง : เริ่มต้นที่ประมาณ 0.1-0.5% ของมูลค่าสินค้าที่เอาประกัน ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า เส้นทางขนส่ง และระดับความเสี่ยง
- ประกันภัยเบ็ดเตล็ด :
- ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ตัวอย่างของกรุงเทพประกันภัย เริ่มต้นที่ 2,879 บาทต่อปี
- ประกันสุขภาพ ตัวอย่างของ Tisco Insure เริ่มต้นที่ 5,940 บาทต่อปี
- ประกันการเดินทาง ตัวอย่างของ MSIG เริ่มต้นที่ 216 บาท สำหรับแผนการเดินทาง 5 วัน
ประกันชีวิตกับประกันวินาศภัย ต่างกันอย่างไร
ประกันชีวิต (Life Insurance) และประกันวินาศภัยมีความแตกต่างกันในหลายด้าน โดยประกันชีวิตมุ่งเน้นการคุ้มครองชีวิตและสุขภาพของผู้เอาประกัน รวมถึงการออมเงิน หรือการลงทุนในบางรูปแบบ เช่น ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ในขณะที่ประกันวินาศภัยมุ่งเน้นการคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สิน หรือความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลอื่น
ประกันชีวิตจะจ่ายเงินผลประโยชน์ให้กับผู้รับผลประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต หรือจ่ายให้ผู้เอาประกันในกรณีที่มีการรักษาพยาบาลหรือเกิดทุพพลภาพ ส่วนประกันวินาศภัยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงกับทรัพย์สินที่เอาประกัน แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ครับ
สรุป ประกันวินาศภัย ตัวช่วยคุ้มครองภัยรอบด้าน
ประกันวินาศภัย คือ เครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงที่ช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันอื่นๆ การเลือกทำประกันวินาศภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยง และความต้องการของคุณ จะช่วยลดภาระทางการเงินและความกังวลลงได้อย่างมาก
ประกันติดโล่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยคุณเลือกประกันวินาศภัยที่เหมาะสมกับความต้องการ และงบประมาณของคุณ ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกันอัคคีภัยบ้านและคอนโด ด้วยทีมงานมืออาชีพและบริการที่ใส่ใจ เราพร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกแผนประกัน การทำความเข้าใจเงื่อนไขความคุ้มครอง ไปจนถึงการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเมื่อเกิดความเสียหาย เพื่อความอุ่นใจในทุกย่างก้าวของชีวิตครับ
ที่มา: สมาคมประกันวินาศภัยไทย