แจ้งเคลมสีรอบคันกับประกันชั้น 1 ทำได้มั้ย มีค่าใช้จ่ายอะไร
เจ้าของรถทุกคนคงไม่อยากให้รถยนต์แสนรักที่คอยทะนุถนอมเหมือนไข่หินนั้นมีรอยขูดลึกหรือรอยสีรถถลอกอยู่แล้ว เพราะสิ่งนี้ทำให้รถยนต์ดูไม่สวยงาม ซ้ำยังบอกได้อีกว่ารถยนต์ของคุณขับไปเฉี่ยวชนอะไรสักอย่างมาแล้วไม่รู้ตัว อีกทั้งยังส่งผลให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพลงด้วย แต่เมื่อคิดดูให้ดี ๆ ก็พบว่าสีรถมีรอยถลอกลึกหรือมีรอยขูดไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุรถชนเลยนะ แล้วอย่างนี้จะขอเคลมสีรอบคันกับประกันรถยนต์ชั้น 1 จากบริษัทประกันได้ไหม?!
ประกันชั้น 1 เคลมสีรอบคันได้มั้ย

“สามารถเคลมได้” เพราะจุดเด่นที่สุดของประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คือความคุ้มครองที่ครอบคลุมความเสียหายต่อตัวรถยนต์แบบไม่มีคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นการขับรถเฉี่ยวชนเสา กำแพง ฟุตบาท รถเป็นรอยขูดลึก หรือแม้แต่รอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณอาจไม่รู้ตัวว่าเกิดขึ้นตอนไหนและอย่างไร ดังนั้น หากคุณมีประกันชั้น 1 การรวบรวมริ้วรอยต่างๆ เพื่อเคลมสีรอบคัน จึงเป็นสิทธิที่คุณสามารถทำได้ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ครับ
เคลมสีรอบคันประกันชั้น 1 มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
โดยส่วนใหญ่แล้ว การเคลมสีรอบคันแบบไม่มีคู่กรณี หรือไม่สามารถระบุเหตุการณ์ที่ชัดเจนได้ จะมีค่าใช้จ่ายที่เรียกว่า “ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ” หรือค่า Excess ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เจ้าของรถต้องรับผิดชอบเอง โดยปกติจะคิดตาม “เหตุการณ์” ซึ่งบริษัทประกันอาจประเมินรอยแผลรอบคันของคุณว่าเกิดจากกี่เหตุการณ์ เช่น รอยขีดข่วนที่ประตูอาจนับเป็น 1 เหตุการณ์ รอยครูดที่กันชนหลังอีก 1 เหตุการณ์ เป็นต้น โดยค่า Excess จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทต่อเหตุการณ์ครับ
ประกันชั้น 1 เคลมสีรอบคัน ต้องทำอย่างไรบ้าง
สำหรับขั้นตอนการ เคลมรอบคันกับประกันชั้น 1 นั้นไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอย่างที่คิดครับ เพียงแค่เตรียมเอกสารให้พร้อมและทำตามขั้นตอนที่ประกันติดโล่กำลังจะแนะนำต่อไปนี้ รับรองว่ารถของคุณจะกลับมาสวยเงางามเหมือนใหม่ได้อย่างแน่นอน
เตรียมเอกสารอะไรบ้าง
ก่อนติดต่อบริษัทประกันภัย ควรเตรียมเอกสารสำคัญให้พร้อมเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ โดยเอกสารหลักๆ ที่ต้องใช้มีดังนี้ครับ
- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ (พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง)
- สำเนาใบอนุญาตขับขี่ของผู้ขับขี่ (พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง)
- สำเนากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
- สำเนาทะเบียนรถยนต์
- รูปถ่ายความเสียหายของตัวรถในแต่ละจุด
ขั้นตอนการเคลมสีรอบคัน
เมื่อเอกสารพร้อมแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการแจ้งเคลมกันเลยครับ เพื่อให้การเคลมสีรถรอบคันของคุณราบรื่นที่สุด ประกันติดโล่ได้สรุปขั้นตอนง่ายๆ มาให้ทำตามกันได้เลย
- 1. โทรแจ้งบริษัทประกันภัย อันดับแรกให้โทรติดต่อบริษัทประกันภัยของคุณโดยตรง แจ้งความประสงค์ว่าต้องการ เคลมสีรอบคัน ประกันชั้น 1 จากนั้นเจ้าหน้าที่จะสอบถามรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับลักษณะของรอยแผลและความเสียหายที่เกิดขึ้นรอบคัน
- 2. อธิบายลักษณะความเสียหาย ขั้นตอนนี้สำคัญมากครับ คุณควรแจ้งรายละเอียดของรอยแผลแต่ละจุดให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จำได้ เช่น “รอยขูดที่ประตูหน้าซ้ายเกิดจากการเบียดกับพุ่มไม้” หรือ “รอยครูดที่กันชนหลังน่าจะเกิดตอนถอยจอดในห้าง” การให้ข้อมูลที่สมเหตุสมผลจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ประเมินเหตุการณ์และค่า Excess ได้ง่ายขึ้น
- 3. รับเลขที่เคลม (Claim Number) หลังจากแจ้งข้อมูลเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะออกเลขที่รับแจ้งเหตุหรือเลขเคลมให้คุณ ซึ่งคุณต้องเก็บเลขนี้ไว้เพื่อใช้ในการติดต่อประสานงานกับอู่หรือศูนย์บริการในขั้นตอนต่อไป
- 4. นำรถเข้าประเมินความเสียหายที่อู่/ศูนย์บริการ คุณสามารถนำรถยนต์พร้อมเลขที่เคลมเข้าไปที่อู่หรือศูนย์บริการในเครือของบริษัทประกัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการประเมินความเสียหายและตีราคาส่งให้บริษัทประกันอนุมัติ
- 5. รอการอนุมัติและนัดวันซ่อม เมื่อบริษัทประกันอนุมัติการซ่อมแล้ว ทางอู่หรือศูนย์บริการจะติดต่อกลับมาเพื่อนัดวันนำรถเข้าซ่อมสี โดยระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับปริมาณความเสียหายและคิวของอู่นั้นๆ
- 6. ชำระค่า Excess (ถ้ามี) และรับรถ หลังจากซ่อมเสร็จเรียบร้อย คุณจะต้องชำระค่า Excess ตามที่ตกลงไว้กับบริษัทประกัน (ในกรณีที่เป็นการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี) จากนั้นก็สามารถตรวจเช็กความเรียบร้อยและรับรถคู่ใจที่กลับมาสวยเหมือนเดิมได้เลย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเคลมสีรอบคัน
เคลมสีรอบคันสามารถเปลี่ยนสีรถได้มั้ย
“ไม่ได้ครับ” การเคลมประกันมีวัตถุประสงค์เพื่อซ่อมแซมความเสียหายให้กลับสู่สภาพเดิมก่อนเกิดเหตุเท่านั้น ดังนั้นการ เคลมสีรถรอบคัน จึงเป็นการทำสีเดิมให้กลับมาสวยงามดังเดิม ไม่สามารถแจ้งเคลมเพื่อเปลี่ยนเป็นสีอื่นที่แตกต่างไปจากสีที่จดทะเบียนไว้ได้ หากคุณต้องการเปลี่ยนสีรถจริงๆ จะต้องเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวและต้องไปดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีกับกรมการขนส่งทางบกให้เรียบร้อยครับ
เคลมสดและเคลมแห้งคืออะไร
- เคลมสด คือการเคลม ณ ที่เกิดเหตุทันที โดยมีพนักงานสำรวจภัย (Surveyor) ออกไปตรวจสอบความเสียหาย และมีคู่กรณีอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เช่น กรณีรถชนกัน
- เคลมแห้ง คือการเคลมหลังจากเกิดเหตุไปแล้ว หรือเป็นการเคลมที่ไม่มีคู่กรณี เช่น การเฉี่ยวชนเล็กๆ น้อยๆ รอยขีดข่วนต่างๆ ซึ่งการเคลมสีรอบคันไม่มีคู่กรณีที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี้ จัดเป็นการเคลมแห้งนั่นเองครับ
หลังเคลมสีรอบคันควรดูแลสีตัวถังยังไง
หลังจากรับรถที่ทำสีมาใหม่ๆ ควรให้เวลาสีเซตตัวอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ครับ ในช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงการล้างรถแบบขัดถูแรงๆ หรือใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงโดยตรงที่ตัวถัง, จอดรถในที่ร่มเพื่อเลี่ยงแดดจัดและมูลนก, และงดการคลุมผ้าคลุมรถไปก่อน เพราะอาจทำให้เกิดรอยได้ง่าย เมื่อพ้นช่วงระยะเวลานี้ไปแล้ว ก็สามารถลงแว็กซ์หรือทำเคลือบแก้วเพื่อเพิ่มความเงางามและปกป้องชั้นสีให้สวยทนนานได้ครับ
ประกันชั้นอื่นๆ เคลมสีรอบคันได้มั้ย
ในกรณีที่คุณใช้ประกันรถชั้น 2+ หรือประกันรถชั้น 3+ จะไม่สามารถใช้สิทธิ์เคลมประกันได้ เนื่องจากว่าประกันรถชั้น 2+ และประกันรถชั้น 3+ ไม่ได้คุ้มครองความเสียหายของรถแบบไม่มีคู่กรณี ซึ่งถ้าเกิดว่าวันหนึ่งคุณขับรถไปเฉี่ยวชนรถคันอื่น แล้วรถคู่กรณีเสียหาย รถคุณมีรอยถลอกนิดหน่อยก็จะเคลมได้แค่คู่กรณีเท่านั้น
สรุป
ไม่มีใครอยากให้รถยนต์เป็นรอยขูดลึกหรือสีถลอกอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าอยู่มาวันหนึ่งเกิดพบเจอเหตุการณ์ที่ว่าจริง ๆ คุณก็ไม่ต้องตกใจ เพราะสามารถใช้ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่มีอยู่เคลมประกันรถได้เลย แม้จะต้องมีการชำระค่า Excess บ้างในบางกรณีตามการประเมินของบริษัทประกัน แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากว่าการจ่ายเงินทำสีใหม่ทั้งหมดเองอย่างแน่นอน เพียงแค่เตรียมเอกสารและทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง รถของคุณก็จะกลับมาสวยเหมือนใหม่ได้ไม่ยากครับ
เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ ปกป้องรถยนต์ของคุณอย่างครอบคลุมด้วยประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ประกันติดโล่ เราพร้อมคัดสรรแผนประกันจากบริษัทชั้นนำที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุด ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายจากเหตุไม่คาดฝัน ให้คุณอุ่นใจได้ในทุกเส้นทาง สนใจปรึกษาเราได้เลย!

